“สุวัจน์” ชี้รัฐบาลมาถูกทางแล้ว เศรษฐกิจเริ่มฟื้น-จี้กระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่ม

(21 พ.ย. 67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ จ.นครราชสีมา ถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะการช่วยเหลือคนยากคนจนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปคนละ 10,000 บาท ซึ่งจะได้รับประมาณปลายเดือนมกราคม 2568 ช่วงตรุษจีนว่า รวมทั้งแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นการช่วยเหลือคนยากจนโดยการแจกเงิน 1 หมื่นบาท และการแก้ปัญหาหนี้สินต่างๆ ของประชาชน ซึ่งสภาพัฒน์ฯ ได้ระบุว่า GDP ของไทยจะโต 2.6 นั้นว่า

ภาพรวมตอนนี้เศรษฐกิจไทยเราอาจจะยังไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทรุดลงไป แต่ก็มีอาการทิศทางที่ดีขึ้นเริ่มกระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ตนเห็นว่ารัฐยังมีความจำเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดูแลคนยากคนจนผู้สูงอายุหรือการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพราะวันนี้ผู้ประกอบการธุรกิจเขาก็ประสบปัญหาเรื่องหนี้ที่มีอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันธุรกิจก็ต้องทำต่อ ฉะนั้นถ้าเราปรับโครงสร้างหนี้ให้เขาสามารถที่จะนำเงินแทนที่จะไปชำระหนี้ทั้งหมดนำเงินมาทำให้กิจการสามารถพยุงต่อไปได้ เครื่องจักรเดินอยู่ได้มันก็ทำให้กำลังทางเศรษฐกิจโดยภาพรวม การจ้างงานต่างๆ นั้น ไม่ได้รับผลกระทบ

ฉะนั้นตนเห็นด้วยที่ตอนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินเพิ่ม 10,000 บาท สำหรับผู้สูงอายุถือว่าเป็นการต่อเนื่องภาคที่ 2 ต่อจาก 14 ล้านคนแรก ซึ่งล็อตสองประมาณ 4 ล้านคน ก็จะมีผลในการที่ทำให้มีการหมุนเวียนของเงินมีการใช้จ่ายในกลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น

และในช่วงปลายปีถือว่าเป็นฤดูการท่องเที่ยวด้วย น่าจะได้ช่วยกันโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยว ดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาในไทยให้มากขึ้นรวมทั้งถ้าคนไทยช่วงนี้เที่ยวเมืองไทยกัน ไปเที่ยวเมืองนอกเท่าที่จำเป็นน้อยลงหน่อยแล้วหันมาช่วยดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศ เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่มีเม็ดเงินที่ไหลไปสู่ทุกอาชีพ ทุกพื้นที่เป็นห่วงโซ่และทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนเรื่องการลงทุนที่อาจจะช้า แต่ว่าการท่องเที่ยวเป็นจุดแข็งของประเทศ

ฉะนั้นวันนี้ตนมองว่าใช้เรื่องการท่องเที่ยวมากระตุ้นเศรษฐกิจจะได้ผล และการดูแลคนยากคนจนด้วยการแจกเงิน 1 หมื่นบาทก็ถือว่าค่อนข้างที่จะมาถูกทาง และเรื่องหนึ่งที่อยากให้ทำอย่างต่อเนื่องคือการทำให้กำลังเศรษฐกิจกลับมาเดินเครื่องจักรคือการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับธุรกิจภาคเล็กๆ พวก SME ให้เขาสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ การชะลอหนี้ไว้ก่อน ชะลอการจ่ายดอกเบี้ยไว้ก่อน แล้วเอาเงินมาหมุนเครื่องจักร มาจ้างงานและเขาก็จะมีงานทำ มีกำลังการผลิตที่เป็นกำลังในเรื่องการส่งออกให้กับประเทศ และต้นปีหน้าเราก็ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เรื่องการเลือกตั้งนายก อบจ. , ส.อบจ.ทั่วประเทศ จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเกิดการสั่นคลอนหรือไม่ นายสุวัจน์ฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าภาพใหญ่ พูดถึงเสถียรภาพของรัฐบาลเวลาที่มีการพูดคุยหรือรับประทานอาหารร่วมกันต่างๆ ก็ถือว่ายังเรียบร้อยดีอยู่ ยังไม่ได้มีประเด็นอะไร ฉะนั้นถ้าจะมีรายละเอียดอะไรแล้วก็ค่อยๆ ว่ากันไปตามเหตุตามผลต่างๆ ก็ค่อยช่วยกันประคับประคอง เพราะว่าเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลก็มีผลกระทบกับเรื่องเศรษฐกิจ ถ้าเกิดรัฐบาลมีเสถียรภาพมันก็ก่อให้เกิดความมั่นใจการแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือการลงทุนต่างๆ มันก็จะดีขึ้น

ฉะนั้นขณะนี้ตนคิดว่ายังไม่มีผลกระทบอะไรกับเสถียรภาพกับรัฐบาล ส่วนที่พรรคการเมืองไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.รวมทั้งการาดการณ์ตัวเลข ส.ส.ที่จะได้ของพรรคการเมืองต่างในอนาคตนั้น เรื่องนี้ตนคิดว่ามันยังห่างไกลกับการเลือกตั้งครั้งใหญ่ วันนี้สภาเดินมาได้ปีครึ่ง เพิ่งเดินมาได้เกือบๆ 40% แล้ว ตนเห็นว่ามันยังห่างไกล สถานการณ์มันยังไม่สามารถผนวกให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ เพียงแต่ว่าจังหวะของการเลือกตั้งท้องถิ่นมาก่อน ฉะนั้นทุกคนก็ต้องรักษาฐานระยะยาวเอาไว้ แต่จริงๆ มันยังไม่ใกล้กับการเลือกตั้งใหญ่เพียงพอที่จะมาผูกให้เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ก็เข้าใจทุกคนก็ต้องพยายามที่จะรักษาฐาน แต่ก็คิดว่าทุกคนก็เข้าใจว่าเลือกตั้งท้องถิ่นก็ท้องถิ่น ไม่น่าที่จะมากระทบอะไรกับเสถียรภาพของรัฐบาล ตนว่าก็แยกเรื่องกัน ท้องถิ่นก็ท้องถิ่น รัฐบาลใหญ่ก็รัฐบาลใหญ่ 

ต่อข้อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยจีบพรรคชาติพัฒนาให้ไปร่วมกับพรรคเพื่อไทยคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายสุวัจน์ฯ ก็อย่างที่ตนบอก การเลือกตั้งก็คงอีกนาน อีก 2 ปีกว่า ฉะนั้นตอนนี้เรามีหน้าที่อะไรในปัจจุบันก็ทำสิ่งนี้ให้ดีที่สุด ตอนนี้เราก็เป็นพรรครัฐบาลช่วยกันทำงานให้มันเต็มที่ หรือว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นมันก็คงรักษาฐานเรา ส่วนการรวมหรือไม่รวมหรือเป็นเรื่องของอนาคต การเมืองก็เรามีหน้าที่อะไรทำวันนี้ก็ทำ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็เป็นงานในทุกๆ เรื่อง

การเมืองไทยมองยาวไม่ค่อยได้ เอาว่าอย่ามองเกิน 3 เดือนแล้วกัน มองใกล้ๆ ขณะนี้ตนคิดว่าโดยภาพรวมรัฐบาลก็โอเคแล้ว เสถียรภาพรัฐบาลก็โอเค เศรษฐกิจก็กระเตื้องขึ้น นโยบายต่างก็เริ่มมีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตนก็ให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารฯ นายกรัฐมนตรีเป็นคนรุ่นใหม่ก็ต้องทำงานเหนื่อยหน่อยในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

เห็นว่านายกรัฐมนตรีจะแถลงผลงาน ต้องดูว่าท่านนายกฯจะแถลงอย่างไร แต่เชื่อในความเป็นคนรุ่นใหม่ ท่านคงจะมีอะไรที่เป็นวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ให้กับประเทศ  ส่วนตอนนี้พรรคชาติพัฒนาให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจมากๆ ก็คิดว่าวันนี้เราก็เดินมาถูกทาง เพียงแต่ว่าปัญหาต่างมันหลายอย่าง หลายเรื่อง และปัจจัยตัวแปรรอบโลกมากมาย แต่ยังไงเราก็มีตัวช่วยที่สำคัญเรื่องการท่องเที่ยว ฉะนั้นอยากให้รัฐบาลเน้นจากการที่จะใช้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะกอบกู้เศรษฐกิจได้ผลและไปถึงมือพี่น้องประชาชนโดยเร็ว