หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ด.ญ.วัย 14 โดนเพื่อนชายโรงเรียนเดียวกันลวงขยี้กาม

(4 ธ.ค.67) ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพลากร บุตรวงษ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครอง ของเด็กหญิงน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ไปรับตัวน้องเอ ผู้เสียหาย ที่ผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าลูกกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชาย ม.2 โรงเรียนเดียวกัน ลวงไปบังคับข่มขื่นในบ้านพัก พื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จากนั้นได้นำตัวขึ้น จยย.มาส่งทิ้งไว้ปากทางเข้าหมู่บ้าน แล้วปล่อยให้เดินกลับบ้านคนเดียว 

เมื่อ ด.ญ.เอ เดินทางมาถึงบ้านจนมืดค้ำ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่เห็นว่าผิดปกติ จึงได้สอบถามจนได้ความว่า ขณะโรงเรียนเลิก กำลังจะเดินทางกลับบ้าน ได้มี ด.ช.ซี (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี เพื่อนนักเรียน ม.2 โรงเรียนเดียวกัน ได้อาสาจะขี่ จยย.พากลับไปส่งบ้านพัก เมื่อเดินทางผ่านหน้า สภ.เทพสถิต ได้พากันแวะซื้อขนมกินกันที่ร้านค้าข้างทาง ก่อนจะพากันขี่ จยย.เข้ามาในหมู่บ้าน

แต่ช่วงที่ขี่ จยย.ผ่านบ้านของ ด.ช.ซี ผู้ก่อเหตุ ได้ออกอุบายว่า ขอจอด จยย.เข้าไปเอาของในบ้านพัก โดยให้ผู้เสียหาย เดินตามเข้าไปเป็นเพื่อน ซึ่งขณะนั้นไม่มีคนอยู่ภายในบ้านพัก เนื่องจาก ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ ไปทำธุระนอกบ้าน เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นปลอดคน ก็ได้กอดจูบลวนลามและใช้กำลังข่มขื่นผู้เสียหาย จนสำเร็จความไคร่ ก่อนจะนำตัวไปส่งบ้านพัก 

นายพลากร ระบุด้วยว่า ในเรื่องคดีความ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนการช่วยเหลือของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็จะเตรียมความพร้อมเด็ก เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบทีมสหวิชาชีพ เพื่อสอบปากคำ หลังจากได้รายละเอียดแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ตำรวจ 

สำหรับเรื่องการศึกษา จะได้ประสานกับทางสถานศึกษา เพื่อให้การดูแลเรื่องการศึกษาต่อชั้น ม.2 ต่อไปก่อน โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเรียน หากพบว่า เด็กมีปัญหาเรื่องการเรียนอยู่ในสถานศึกษาเดิม ก็จะได้จัดหาที่เรียนให้ใหม่ นอกจากนั้น ยังมีเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือ ซึ่งทาง พมจ.ก็จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ซึ่งกรณีดังกล่าว ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 

ขณะที่ น.ส.บี แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากพาน้องเอ ลูกสาวเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วุฒิชัย เยิมสูงเนิน สว.สอบสวน สภ.เทพสถิตแล้ว ก็ยังกลัวว่าจะไม่ได้รับวามเป็นธรรม จึงได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชน และเมื่อพ่อแม่ญาติของผู้ก่อเหตุทราบเรื่อง ที่ตนได้เข้าแจ้งความแล้ว ได้ส่งคนมาสอบถามและขอไกล่เกลี่ย แต่ตนยังไม่ตอบรับแต่อย่างใด จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ ช่วยดูแลคดีให้อย่างเต็มที่ด้วย เพราะพ่อแม่ฝ่ายชายเป็นคนกว้างขวาง และรู้จักกับคนมีสี จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของคดีความดังกล่าว