หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม! พ.ต.ต. ขับรถย้อนศรชน จยย.ดับ
หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม! พ.ต.ต. ขับรถย้อนศรชน จยย.ดับ

หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม! พ.ต.ต. ขับรถย้อนศรชน จยย.ดับ ลูกชายผู้ตาย เผย หลังเกิดเหตุคู่กรณีพยายามยกมือไหว้ และก้มลงกราบพร้อมกับพูดขอโทษอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิด หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นคนมีสี และมีตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ
(27 มิ.ย. 68) จากกรณี พ.ต.ต. ขับรถย้อนศรบนถนน ในพื้นที่ ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จนเป็นเหตุให้หญิงวัย 64 ปี เสียชีวิต ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดปลักแรต ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง ซึ่งทางครอบครัวของ น.ส.จุฑาทิพ ผู้เสียชีวิต ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับจัดพิธีรดน้ำศพที่จะมีขึ้นในเวลา 15.00 น. ของวันนี้
นายวัชระ อายุ 42 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังจากที่ตนทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เมื่อตั้งสติได้จึงรีบเดินทางกลับมา และได้เข้าไปยัง สภ.บ้านโป่ง เพื่อพบกับคู่กรณี เมื่อพบหน้ากัน คู่กรณีก็พยายามยกมือไหว้และก้มลงกราบพร้อมกับพูดขอโทษอยู่ตลอดเวลา โดยตนก็ได้ตอบไปว่าไม่ต้องขอโทษหรอก คุณขับรถชนแม่ผมตาย ขอโทษไปแม่ผมก็ไม่ฟื้น ซึ่งจากการพูดคุยกัน คู่กรณีไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิด และยังอยู่ในสภาพที่มีสติไม่ครบสมบูรณ์ และที่ตัวยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งตลอดเวลา ซึ่งตนไม่ใช่คนเดียวที่ได้กลิ่น
จากนั้นตนได้ถามถึงสาเหตุของการขับย้อนศร โดยคู่กรณีบอกว่ากำลังขับรถกลับบ้าน และจะขับรถยนต์กลับเส้นทางนี้เป็นปกติ สร้างความแปลกใจให้ตนเป็นอย่างมาก
ในส่วนของการเยียวยา ที่แม่ของคู่กรณีได้มอบเงินช่วยเหลือค่าปลงศพ จำนวน 40,000 บาท ในตอนแรกตนได้ปฏิเสธ เพราะเกรงว่าจะมีผลสามารถบรรเทาโทษทางกฎหมาย แต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่าไม่ส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับเข้าใจหัวอกของแม่คู่กรณี จึงยอมรับไว้ แต่ในด้านของคดีความ ตนขอยืนยันว่า จะดำเนินการจนถึงที่สุด และหากคู่กรณีจะเข้ามากราบขอขมาศพ ส่วนตัวตนไม่ติดขัด แต่ในส่วนของญาติตนไม่ทราบ
โดยหลังเกิดเหตุได้มีโทรศัพท์เข้ามาอ้างเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ จะเข้ามาพูดคุยและช่วยเหลือ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่จริงหรือไม่ จึงปฏิเสธไป เพราะกำลังยุ่งกับการจัดเตรียมงาน โดยสิ่งที่ครอบครัวกังวลจนถึงตอนนี้คือ ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับที่ยังไม่ออก รวมถึงต้องการขอดูคลิปกล้องหน้ารถยนต์คันเกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ยอมรับว่า ตนและครอบครัวรู้สึกวิตกกังวลมาก ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นคนมีสี และมีตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
