คืบหน้าคดีทนายตั้ม “พี่ดาว” ยังไม่ให้ความร่วมมือตำรวจ

คืบหน้าคดีทนายตั้ม “พี่ดาว” ยังไม่ให้ความร่วมมือตำรวจ

15927 พ.ย. 67 13:17   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รอง ผบ.ตร.เผยความคืบหน้าคดีดัง หลังมีการควบคุมตัว “พี่ดาว” พี่ภรรยาของทนายตั้มมารับทราบข้อกล่าวหา เจ้าตัวยังไม่ให้ความร่วมมือในการให้การ - ตำรวจยันหลักฐานแน่นอยู่แล้ว

(27 พ.ย. 67) ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ช่วงสายวันนี้ ผู้สื่อข่าว บรรยากาศความคืบหน้ากรณีการจับกุม น.ส.ปิณฑิรา หรือ “ดาว” พี่สาวภรรยาของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม  ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ว่า เช้านี้มีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ต สีดำ ทะเบียน งษ 99 ซึ่งเป็นรถที่ก่อนหน้านี้ น.ส.ปิณฑิรา เคยนั่งมาให้ปากคำ ขับวนเข้ามาที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม อ้อมด้านหลังนักข่าวไปทางด้านหลังอาคาร ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าววิ่งตามไปที่ด้านหลังอาคาร ไม่ทันเห็นว่ามีใครลงจากรถหรือไม่ เห็นเพียงรถคันดังกล่าวขับวนออกมาทางด้านหน้าอีกฝั่ง ก่อนจะขับออกไปทันที 


จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เดินทางเข้าประชุมติดตามคดี น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ ในล็อต 2 นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม


พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยว่า วันนี้มาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ในล็อต 2 เนื่องจากวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่วนหนึ่ง ส่งไปให้อัยการและสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ในช่วงนี้ยังมีผู้เสียหายหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อนและยังประสงค์ร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่



ส่วนคดีทนายตั้ม จะขยายผลถึงใครอีกหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยว่า ก็เป็นขั้นตอนการทำงานทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยการดำเนินการจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนได้รายงานความคืบหน้าอยู่หลายส่วน อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาว่าจะนำเข้าในสำนวนหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่


ส่วยกรณีนายเล็กคนขับรถของทนายตั้ม ในชั้นนี้ยังถือว่าเป็นพยานอยู่ แต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางแผนในการสอบสวนเอาไว้


เมื่อถามถึงการสอบปากคำของ น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาทนายตั้ม พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ทราบว่า น.ส.ปิณฑิรา ให้ความร่วมมือน้อยมาก ให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่สอบถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่เท่านั้น เป็นการให้โอกาสพิสูจน์ความผิด 


ส่วน น.ส.ปิณฑิรา จะมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็อยู่ระหว่างขยายผล ว่าจะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติม 


มีรายงานว่าวันนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ น.ส.ปิณฑิรา เพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ให้ครบถ้วน ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และเป็นคดีที่มีมูลค่าความเสียหายสูง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง