คนร้ายดักยิง - เผา อส.บันนังสตา ขณะมาซื้อของที่ร้านขายของชำ

คนร้ายดักยิง - เผา อส.บันนังสตา ขณะมาซื้อของที่ร้านขายของชำ

75228 เม.ย. 68 11:19   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

คนร้ายดักยิง - เผา อส.บันนังสตา ขณะมาซื้อของที่ร้านขายของชำ อยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการเพียง 300 เมตร

(28 เม.ย.68) มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่าน เวลา ประมาณ 00.40 น. ได้เกิดเหตุอุกอาจ โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงคราม ไม่ทราบขนาด ดักยิง อส.บันนังสตา ที่หน้าร้านของชำ ไม่ทราบเลขที่ ริมถนนสาย 410 ยะลา - บันนังสตา จนเสียชีวิต ก่อนจะจุดไฟเผาทั้งรถยนต์ และผู้เสียชีวิตทันที ทราบชื่อ อส.ที่เสียชีวิตคือ ม.อ.ธีรวุฒิ พุทธรัตน์ อายุ 34 ปี ถูกคนร้ายยิงและเผา จนเสียชีวิต ส่วนรถยนต์เก๋งถูกเผาจนเสียหายทั้งคัน 


คืบหน้าล่าสุด เช้าวันนี้ (28 เมย.68) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งตำรวจ ทหาร อส.ได้ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านขายของชำ จุดที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ 10 กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุ



โดยเบื้องต้นทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลาเที่ยงคืนกว่า ผู้เสียชีวิตได้ขับรถยนต์เก๋ง ออกจากฐานปฏิบัติหน้า ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 บ้านตะบิงติงงี ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตรงข้ามโรงเรียนบ้านตะบิงติงงี โดยขับรถยนต์ออกจากฐาน เพื่อไปซื้อของที่ร้านขายของชำ อยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการประมาณ 300 เมตร เมื่อถึงหน้าร้าน ขณะที่ผู้เสียชีวิตลงจากรถยนต์ได้ถูกคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าซุ่มอยู่ในป่ารก ตรงข้ามหน้าร้าน ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ผู้เสียชีวิตทันที เนื่องจากมีร่องรอยกระสุนปืนบริเวณประตูรถยนต์ด้านข้างฝั่งผู้โดยสารหลังคนขับจำนวนหลายนัด หลังจากนั้นเชื่อว่าคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุจุดไฟเผารถยนต์ในทันที


ขณะเดียวกันมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ได้ยินเสียงอาวุธปืนอีกจำนวน 2 จุด ที่คนร้ายพยายามยิงสกัด ไม่ให้เจ้าหน้าที่ออกจากฐาน ชตค.มาช่วย อส.ที่ประสบเหตุ


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ร้านขายของชำดังกล่าว เปิดขายของเป็นปกติทุกวันถึงช่วงเวลา ตี 2-3 และพบว่า บริเวณหน้าตรงเสาไฟฟ้าส่องสว่าง มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ห่างจากร้านไม่ถึง 20 เมตร แต่เมื่อสอบถาม ก็ทราบว่า กล้องวงจรปิดดังกล่าว ไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ เนื่องจากกล้องหันไปอีกด้านหนึ่ง หลังเกิดเหตุคนร้ายก็ได้หลบหนีไป

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat