ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุฆาตกรรมเผานั่งยางกลางสวนปาล์ม 4 ศพ
ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุฆาตกรรมเผานั่งยางกลางสวนปาล์ม 4 ศพ

ผบช.ภ.9 นำทีมลุยจุดเกิดเหตุฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพกลางสวนปาล์มตรัง คาดปมขัดแย้งผลประโยชน์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสะเทือนขวัญ ฆาตกรรม 4 ศพกลางสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่หมู่บ้านใน ต.กะลาสี อ.สิเกา จ.ตรัง หลังพบศพเหยื่อ 3 รายถูกเผานั่งยาง อีก 1 รายถูกเผาฝังอย่างโหดเหี้ยม
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเหยื่อทั้ง 4 รายเป็นกลุ่มคนงานจาก จ.กระบี่ ที่เดินทางมาดูแลสวนปาล์มในพื้นที่ จ.ตรัง โดยคาดว่าเกิดความขัดแย้งกับอีกฝ่ายที่อ้างสิทธิ์ในผลประโยชน์สวนปาล์ม จนนำไปสู่การเผชิญหน้าและจบลงด้วยความรุนแรงถึงขั้นเอาชีวิต
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น หัวกระสุน ปลอกกระสุน และร่องรอยการจัดเตรียมพื้นที่เผาศพ สะท้อนให้เห็นว่าคนร้ายมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่ออำพรางคดี เบื้องต้นตำรวจรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้ว 4 ราย เป็นชายทั้งหมด อายุระหว่าง 32-37 ปี ประกอบด้วย
1. นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี
2. นายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี
3. นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี
4. นายรพีพันธ์ หรือเถือก อายุ 36 ปี
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ได้แก่
1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
2. ร่วมกันซ่อนเร้นและอำพรางศพ
3. ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน
4. มีและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ยิงปืนโดยใช่เหตุในพื้นที่ชุมชน
พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ ระบุเพิ่มเติมว่า สวนปาล์มที่เกิดเหตุมีเจ้าของร่วมหลายรายทั้งใน จ.ตรัง และ จ.กระบี่ ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มที่ดูแลสวนแทนเจ้าของสวนฝั่งกระบี่ และมีความเป็นไปได้ว่าอาวุธปืนที่หายไปจากศพ 1 กระบอก อาจถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุขโมยไปใช้
“จากการสืบสวน พบว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยเคยมีประวัติเกี่ยวพันกับการเรียกค่าคุ้มครอง และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติดด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างเข้มข้น และเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของสวน พยาน และบุคคลใกล้ชิด มาสอบปากคำทั้งหมด” ผบช.ภ.9 กล่าว
พร้อมย้ำว่า คดีนี้ไม่ใช่การฆ่าธรรมดา แต่เป็นการฆ่าและเผาทำลายศพอย่างเหี้ยมโหด ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่
“เราจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและความปลอดภัยของประชาชน” พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
