รวบตัวการใหญ่ขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึกขายต่อบุคคลภายนอก

รวบตัวการใหญ่ขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึกขายต่อบุคคลภายนอก

41126 มี.ค. 68 19:54   |     AdminNews

'บิ๊กเต่า'แถลงปิดจบล้างบางรวบตัวการใหญ่ทุจริตยา รพ. - ย้ำจะเร่งตรวจสอบโรงพยาบาลอื่นๆ คาดมีการทุจริตแบบเดียวกัน

26 มี.ค 68 ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ บก.ปปป. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. , ป.ป.ช. , อย. ,องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อม กรมบัญชีกลาง ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย แพทย์หญิงหรือ นางสาวบรินดา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา ในฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเอง หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 157 162 (1) (2) (3) และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และ นายสมปราช , ร้อยตรีหญิงภาวนา นางสาวสุรีย์ , นายสมพงศ์ , นายทินกร , นางอภิญญา ได้ทำความผิดเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 162(1)(2)(3) และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86


สืบเนื่องจากผู้อำนวยการองค์การทหารผ่านศึก มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการ ป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ดำเนินการคดีกับแพทย์หญิงบรินดาฯ กับพวก กรณี มีขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาลเพื่อนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ความว่า เมื่อปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ.2568 แพทย์หญิงบรินดาฯ ขณะดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก (ฝ่ายการแพทย์) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ที่มีหน้าที่ในการวินิจฉัยและรักษาอาการผู้ป่วยทั่วไป ได้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นลักษณะของการแบ่งหน้าที่ทำกับ นางสาวกัญญารัตน์ฯ และพวก


โดยนางสาวกัญญารัตน์ฯ เป็นผู้ทำหน้าที่ชักชวนกลุ่มบุคคลในลักษณะเครือข่ายแม่ทีม และลูกข่ายในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีสิทธิเบิกจ่ายตรงใน การรักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลาง, ตระเตรียมวางแผนให้ผู้เข้าร่วมขบวนการที่จะมาตรวจรักษากับแพทย์หญิงบรินดาฯ ว่าจะต้องแจ้งกับพยาบาลว่าอย่างไร แต่ละรายจะต้องทานอะไรมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ว่ามี อาการอย่างไร จะต้องขอยาอะไรเพิ่มบ้างเพื่อให้ได้ ยาแผนปัจจุบันมา แล้วนำยาดังกล่าวทั้งหมดไปขายเพื่อนำ เงินที่ได้มาแบ่งให้กับผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก


บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย และขออนุมัติหมายค้น จำนวน 17 จุด จนวันนี้ บก.ปปป. สนธิกำลังกับ บก.ปคบ., บก.ปอศ. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. และ อย. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย และเข้าค้นจุดต้องสงสัยพร้อมกัน 17 จุด ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี, นนทบุรี, ชลบุรี, ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร จึงได้ สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกรายยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ขบวนกการนี้เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ ปี 61-67 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐเป็นแพทย์หญิงและพันเอกหญิงส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มเกณฑ์คนผ่านแม่ทีม 6 ทีม ให้มาหาแพทย์หญิงคนดังกล่าวที่ รพ. ทหารผ่านศึกเพื่อเบิกจ่ายยา ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์เบิกจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลาง จะได้ค่าจ้าง 10% จากยอดเงินตามใบเสร็จค่ารักษา จากนั้นในขบวนการ จะนำยามาเก็บก่อนที่ยาจะถูกปล่อยไปตามร้านขายยาทั่วไป เบื้องต้นเฉพาะเครือข่ายลพบุรีความเสียหาย 50 ล้านบาท 


พบข้อมูลสำคัญว่าเฉพาะแพทย์หญิงเป็นผู้ร่วมขบวนการรายเดียวมีการเบิกจ่ายยา 3,680,611 เม็ด/ชิ้น หรือ 33.17% ระหว่างปี 60-67 หรือเป็นเงิน 84,700,847 บาท หรือเกือบร้อยล้านบาท และยังพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันของขบวนการดังกล่าวรับสารภาพว่า นำยามาแพ็คและส่งยากลับไปให้ขบวนการ เพื่อวางขายสู่ร้านขายยาที่น่ากังวล คือ ยาที่กลับมาขายใหม่ อาจเป็นยาที่หมดอายุ 


จากการตรวจค้นร้านยา 11 ร้าน ที่สุ่มเสี่ยงมี 5 ร้านไม่พบความผิดส่วนอีก 6 ร้าน พบว่ามีการขายยาระหว่างไม่มีเภสัชกร และขายยากลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นยานอนหลับ และมี1 ร้าน สภาพเป็นตึกมิดชิด ไม่มีใบอนุญาตขายยาและพบกลุ่มประเภทยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และในจำนวน 6 ร้านนี้ ซื้อยาจากแหล่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะมีการตรวจสอบต่อไป เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ซื้อมาจากขบวนการดังกล่าว 


ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)จะดำเนินกาารต่อที่เกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงินในคดีดังกล่าวและเร่งนัดตรวจสอบเชิงลึกเป็นกรณีเร่งด่วน จากนั้นจะตรวจสอบทรัพย์สินเครือข่ายนี้ หากพบเกี่ยวกับการทำผิด จะเป็นคดีอาญาการฟอกเงินต่อไป จากนี้ ปปป.จะเดินหน้าต่อขยายผลในกลุ่มอื่นๆต่อไปเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีอีกหลายกลุ่มเป็นขบวนการใหญ่



ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

บุกรวบ พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง แก๊งทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat