ชายโฉดฉุดยาย 70 ย่ำยีกลางสวนยาง

(9 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีมีกระแสข่าวว่า คุณยายเอ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในบริเวณพื้นที่ของวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถูกชายโฉดดักฉุดและพาไปข่มขืนกระทำชำเรา ในสวนยาง เหตุเกิดเมื่อประมาณช่วงบ่ายของวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้พบกับคุณยาย ซึ่งพักอาศัยอยู่กับน้องๆ อีก 3 คน  ประกอบด้วย น้องชาย 2 คน น้องสาว 1 คน รวมทั้งคุณยายเป็น 4 คน โดยคุณยาย เป็นพี่สาวคนโต คนที่ 2 เป็นน้องชาย อายุ 66 ปี, คนที่ 3 เป็นน้องสาว อายุ 65 ปี, และคนที่ 4 เป็นน้องชาย อายุ 60 ปี โดยเป็นผู้พิการจำนวน 2 คน รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรัง

ทางด้านคุณยายเอ เล่าว่า เมื่อช่วงประมาณบ่าย 2 ของวันที่เกิดเหตุ ตนเองได้เดินออกจากบ้าน เพื่อจะตลาดนัดลำภูราตามปกติ โดยถือตะกร้าที่มีเศษยางพาราที่เก็บได้จะนำไปขายในตลาด แต่เมื่อเดินออกไปได้ประมาณ 200-300 เมตร ก็ได้พบชายคนหนึ่ง จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถ จยย.ตาม เมื่อไปถึงบริเวณหอถังเก็บน้ำประปา ชายคนดังกล่าวก็กระชากตะกร้าเศษยาง และข่มขู่บังคับให้ซ้อนท้ายรถจยย.ของเขา หากไม่ขึ้นรถจะฆ่าให้ตาย

ตอนนั้นตนเองก็บอกว่า ตนแจ้งตำรวจแล้ว ตำรวจจะเข้ามา เพราะก่อนหน้านั้นประมาณ 2-3 เดือน ชายคนเดียวกันนี้ได้ก่อเหตุจะบังคับตนขึ้นรถมาแล้วครั้งหนึ่ง ระหว่างเดินทางกลับจากตลาดลำภูรา แต่ตนขัดขืนมันจึงหนีไป แต่มาครั้งนี้ มันจึงข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย บังคับตนเองให้ขึ้นรถมัน จากนั้นได้พาไปอีกเส้นทางหนึ่งไปข่มขืนภายในสวนยางพารา โดยระหว่างที่ขืนใจตนถูกบีบคอจนแทบจะหายใจไม่ออก

หลังเกิดเหตุชายคนดังกล่าวยังมาดักรอตนเอง แต่ตนกลัวไม่กล้าไปตลาดจึงให้น้องชายไปแทน ตนอยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ จำหน้าและชื่อผู้ก่อเหตุได้ หลังเกิดเหตุตนก็แจ้งป้อมยามของวิทยาลัย และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางตำรวจได้พาตนเองไปตรวจร่างกายเก็บหลักฐานแล้ว อยากให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะกลัวผู้ก่อเหตุจะย้อนมาทำร้ายหรือมาฆ่า และห่วงน้องๆ จะไม่ปลอดภัย

ทางด้านตำรวจ พ.ต.อ.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด ผกก.สภ.บ้านคลองเต็ง บอกว่า ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นที่รับแจ้งจากผู้เสียหาย ระบุคนก่อเหตุอายุประมาณ 70 ปี กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยกำลังให้เจ้าหน้าที่ไล่กล้องวงจรปิดที่มีภายในวิทยาลัย เพื่อติดตามแกะรอยผู้ก่อเหตุ หากเกิดเหตุการณ์จริงเชื่อว่าวงจรปิดน่าจะจับภาพผู้ต้องสงสัยได้