ชายวัย 58 โดนเชือดคอดับคาบ้าน คาดเมียที่ป่วยจิตเวชเป็นคนลงมือ

ชายวัย 58 โดนเชือดคอดับคาบ้าน คาดเมียที่ป่วยจิตเวชเป็นคนลงมือ

71219 ม.ค. 68 21:53   |     Tum1

ชายวัย 58 โดนเชือดคอดับคาบ้าน คาดเมียที่ป่วยจิตเวชเป็นคนลงมือ เหตุไม่ได้ทานยาต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.กันทรารมย์ ได้รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง กลางทุ่งนา พื้นที่หมู่ 7 บ้านคล้อ ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบศพนายประสิทธิ์ หรือ ช่างสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน มีร่องรอยบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ โดยมีนางสมจิต (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ภรรยา นั่งมองดูศพอย่างใจเย็น สอบถามให้การวกวน พูดคุยไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.กันทรารมย์ 

ตรวจสอบภายในบ้าน พบขวานเปื้อนเลือด จำนวน 1 ด้าม และมีดทำครัว เปื้อนเลือด 1 ด้าม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจพิสูจน์ บริเวณหลังบ้านพบผ้าห่ม ที่นอน และสิ่งของเปื้อนเลือด ถูกวางรวมไว้บนกองฟาง คล้ายกับเตรียมที่จะเผาทำลาย


นายศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว 1 คน และนายประสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตครั้งนี้ เป็นลูกชายคนโต แต่งงานอยู่กินกับนางสมจิต (สงวนนามสกุล) มาแล้วกว่า 30 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชายของตนเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วนภรรยา ปัจจุบันเป็นครูศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่ เป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องกินยาเป็นประจำ เวลาขาดยาจะพูดไปเรื่อยเปื่อย แต่ก็ยังไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน 

เหตุครั้งนี้ ตนก็ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนลงมือก่อเหตุ แต่คิดว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ด้วยกันเป็นคนทำ(ลูกสะใภ้) เพราะลูกชายของตน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ส่วนสาเหตุที่ทำร้ายกันจนเสียชีวิตในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะขาดสติ และขาดยามานาน 


ด้าน น.ส.หนูกาญจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้า ตนกับสามีออกไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อนำวัวออกจากคอกไปผูกเลี้ยงไว้ที่ทุ่งนา ตามปกติเหมือนกับทุกวัน เมื่อไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าว ตนเห็นประตูหน้าบ้านเปิดอ้าไว้อยู่ จึงร้องเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ตนคิดว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้น่าจะยังคงหลับอยู่ จึงไม่ได้เดินเข้าไปส่องดูภายในบ้าน เมื่อนำวัวออกไปผูกเลี้ยงเสร็จ ก็พากันกลับเข้าหมู่บ้าน 

จากนั้น หลานตนซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย เห็นว่าที่บ้านผิดสังเกต จากการดูกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ปรากฏว่าไม่มีภาพ คล้ายกับมีการถอดปลั๊กออก มีเพียงกล้องวงจรปิดหน้าประตูบ้านที่ใช้ได้ แต่ไม่เห็นภาพพ่อ(ผู้ตาย)เดินออกมาให้อาหารไก่ เหมือนที่เคยทำทุกวัน ตนกับสามีจึงพากันขับรถออกมาดูอีกครั้ง และเดินเข้าไปภายในบ้าน ถึงกับพบร่างพี่ชาย นอนหงายแน่นิ่งอยู่ภายในบ้าน ฝั่งซ้ายของประตู สามีตนจึงพยายามปลุก แต่พบว่าเนื้อตัวเย็นเฉียบ จึงคิดว่าเสียชีวิตแล้ว 


จากนั้นพบว่า นางสมจิต ภรรยาผู้ตาย ได้วิ่งเข้ามาทางประตูหลังบ้านมาโอบกอดตนไว้ แล้วพูดว่า "เดี๋ยวพี่ชายก็มา" สามีของตนจึงดึงตัวพี่สะใภ้ของตนออกมา พร้อมกับไล่พี่สะใภ้ออกไปให้ห่าง ตนคิดว่าเป็นพี่สะใภ้ น่าจะเป็นคนก่อเหตุ เพราะมีอาการหลอนอยู่แล้ว เป็นมากว่า 20 ปี แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นนี้ โดยลูกสาวผู้ก่อเหตุเพิ่งพาไปหาหมอเมื่อวันที่ 17 ม.ค.68 ที่ผ่านมา และวันที่ 20 ม.ค.68 นี้ หมอก็นัดอีกครั้งเพื่อรับยา แต่ก็มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน



ด้าน พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนภรรยาผู้เสียชีวิต เบื้องต้นพบว่า ยังคงให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยของการลงมือก่อเหตุ เพราะจากการตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ไม่พบร่องรอยบุคคลภายนอกเข้ามาบริเวณบ้าน และยังพบขวานกับมีดเปื้อนเลือด อยู่ภายในบ้าน ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และในที่เกิดเหตุไม่มีรอยเลือด เนื่องจากมีการใช้ผ้าห่มเช็ดคราบเลือดจนเกลี้ยง แล้วนำไปกองรวมกันบนกองฟาง เพื่อเตรียมจะเผาทำลายดังกล่าว 

จากการสอบถาม ลูกๆและญาติๆของผู้ตาย สันนิษฐานว่า ชนวนเหตุอาจเกิดจากภรรยาผู้ตาย ไม่ได้รับประทานยามากว่า 2 สัปดาห์แล้ว จึงอาจคลุ้มคลั่ง เกิดอาการหลอน แล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ในขณะที่ผู้ตายอาจกำลังนอนหลับอยู่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กำลังทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาล ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง