สาว 2 ร้อง ปคบ.ผ่าตัดแปลงเพศ หลังแผลหายมีความสุขกันแฟนหนุ่มครั้งแรกลำไส้ทะลุ หมอแก้เย็บปิดรูทวาร ต้องพกถุงอุจจาระติดหน้าท้องตลอดเวลา

(10 ม.ค.68) คุณ อุ๋มอิ๋ม อายุ 30 ปี สถานะทางเพศเป็นสาวประเภทสอง ร้องจ่าคิงส์พาขอคำปรึกษาพงส.กก.4 บก.ปคบ. โดยบอกเล่าว่า เมื่อ 7 เดือนก่อน ได้ตกลงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศที่โรงพยาบาลชื่อดังย่านราษฎร์บูรณะ แต่กลับได้ถุงอุจจาระมาแทนต้องพกติดตัวตลอดเวลา เพราะหมอเอาลำไส้มาอยู่หน้าท้อง และหมอเย็บปิดรูทวาร ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจมาเป็นเวลานาน แก้ไม่หายสักที

คุณอุ๋มอิ๋ม เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนไปผ่าตัดแปลงเพศที่โรงพยาบาลดังกล่าว ครบ 2 เดือน แผลผ่าตัดหายสนิทแล้ว ได้มีความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มแต่ปรากฏว่า ช่องท้องทะลุ มีการตกเลือด ช่องคลอดเทียมที่ทำขึ้นมา ทำให้ลำไส้ทะลุ หมอจึงส่งเคสให้หมออีกรายหนึ่งรักษา โดยได้มีการผ่าหน้าท้องเปิดเอาลำไส้ออกมา บอกว่าเป็นวิธีการรักษา ทำให้ไม่สามารถขับถ่ายทางทวารหนักปกติเหมือนเดิมได้ รักษามานาน 7 เดือนแล้ว ทำให้ทรมาน ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมไม่ได้ อยากกลับมาอุจจาระได้เหมือนเดิม ตนได้ใช้ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดแปลงเพศไป ครั้งแรก 120,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2567 เริ่มมีอาการ 28 พฤษภาคม 2567 แจ้งไปทางโรงพยาบาลแอดมินตอบกลับว่า เป็นความผิดของคนไข้เอง 

ก่อนผ่าตัดแปลงเพศที่โรงพยาบาลดังกล่าว ตนได้ศึกษาและเลือก รพ.แห่งนี้ มั่นใจและเชื่อมั่นในฝีมือคุณหมอเลยเลือกที่จะมาทำที่โรงพยาบาลดังกล่าว คุณหมอ ได้บอกว่า หลังจากผ่าตัดได้ 2 เดือน สามารถใช้งานได้ปกติ ตนจึงได้ใช้งานกับแฟนหนุ่มจึงทำให้หน้าท้องทะลุ 

และสาเหตุอาการที่คุณหมออีกคนแจ้งคือ ช่องคลอดที่ทำต่ำเกินไป และเป็นรูที่เล็ก หมอคิดว่าจะหายได้เองตามธรรมชาติ พอเกิดเรื่องการใช้งาน จึงกลายเป็นรูใหญ่ เกิดการตกเลือดเยอะ และต้องขับถ่าย เอาถุงหน้าท้องเทออกอย่างต่ำวันละ 9-10 ครั้ง ต้องเทถุงอุจจาระ หลายรอบ 

ตนได้ไปปรึกษาหมอคนใหม่บอกว่า ต้องแก้ใหม่หมดเป็นเทคนิคต้องต่อลำไส้ใหม่ทำค่อนข้างยาก ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงถึง 7 แสนบาท ซึ่งตนยังไม่มีเงินมากขนาดนั้นจึงยังไม่ตัดสินใจทำ 

อยากให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบแก้ไขให้กลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติเหมือนเดิม เพื่อชื่อฟองเบียร์ สาวสองเหมือนกัน หน้าท้องทะลุแบบเดียวกับตนรักษา 2 เดือนก็หาย ขับถ่ายได้เป็นปกติ ชีวิตมีความสุขดี แต่ของตนนี่ผ่านมา 7 เดือนแล้วเดือดร้อนมาก แฟนหนุ่มก็ทิ้งเลิกราไปหลังเกิดกรณีนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ได้สอบปากคำผู้เสียหายและจะตรวจสอบสถานเสริมความงามโรงพยาบาลแห่งนี้ดำเนินการ ตามจริยธรรมหรือไม่อย่างไรก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อ