ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ตำรวจซิ่งเก๋งชนยาย 78 ดับ
ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ตำรวจซิ่งเก๋งชนยาย 78 ดับ

ญาติหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีตำรวจซิ่งเก๋งชนรถจักรยานยนต์ยายวัย 78 ดับ เผยขอเจ้าหน้าที่ให้ตรวจระดับแอลกอฮอล์คนขับ เจ้าหน้าที่บอกตรวจไม่ได้ที่เป่าหมด
(12 เม.ย. 68) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและภาพวงจรปิด ตำรวจขับรถเก๋งชนท้ายจักรยานยนต์ ทำให้คุณย่าวัย 78 ปีเสียชีวิต โดยมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน พร้อมกับเขียนข้อความว่า “ตำรวจขับรถชนคนตาย พอขอให้เป่าแอลกอฮอล์คนขับ เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีที่เป่า พูดมาได้ยังไง แต่พ่อขอให้หมอตรวจเลือดไปแล้ว ช่วงชุลมุนตำรวจเข้าไปเต็มโรงพยาบาล ผลจะเป็นยังไงต้องมาดูอีกที โพสนี้ไม่ได้กล่าวหาใคร แค่ต้องการความจริงและขอความเป็นธรรม คดีนี้กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ ฝากทุกคนช่วยแชร์หน่อยนะคะ ครอบครัวเราต้องไม่สูญเสียฟรีแน่นอน” โดยมีผู้เข้าชมและแชร์ พร้อมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เหตุเกิดเวลา 20.30 น. วันที่ 11 เมษายน 2568
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ ถนนหลวง 2315 หนองวัวซอ -ดงหมากไฟ บริเวณหน้าวัดขันธปราณี บ.คำหมากคูณ ม.4 ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นถนน 2 เลน มีการขยายไหล่ทาง พบร่องรอยการเฉี่ยวชน เศษชิ้นส่วนอะไหล่รถตกเกลื่อน มีรอยคราบเลือด และคราบน้ำมันเครื่องเปื้อนพื้นถนน โดยนายโชคทวี อายุ 59 ปี ลูกชายของนางสุขสมาน หรือย่าติ๋ม อายุ 78 ปี ผู้เสียชีวิต ชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณหน้า อู่ ช.ต้น บำรุงยนต์ ตรงข้ามกับวัดขันธปราณี เป็นจุดที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้
นายโชคทวี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสุขสมาน ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีชมพู กลับมาจากไปหาหลาน กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมาจอดอยู่กลางถนนเส้นสีเหลือง เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยบ้าน ต่อมา ร.ต.ท.อภิรักษ์ อายุ 57 ปี สังกัด ชุดสืบสวน สภ.หนองวัวซอ ขับรถเก๋งเชฟโรเล็ต สีขาว มาจากโรงพักด้วยความเร็วสูง และชนท้ายรถจักรยานยนต์เต็มแรง จนผู้ตายกระเด็นตกรถ มีบาดแผลที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จักรยานยนต์กระเด็นห่างจากผู้บาดเจ็บประมาณ 10 เมตร ส่วนรถเก๋งพุ่งไปชนกับรถโตโยต้า เฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่ขับสวนทางมา ได้รับความเสียหาย ทำให้ ร.ต.ท.อภิรักษ์ฯ ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก นำส่งโรงพยาบาล ส่วนนางสุขสมานฯ เสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ขณะที่ตำรวจคู่กรณีไม่พูดอะไร คาดว่าจะยังงง ไม่รู้ว่าเมาหรือไม่ ลักษณะการขับรถเร็วและไม่มีร่องรอยการเบรก ส่วนร้อยเวรไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ แต่มีการเจาะเลือดคู่กรณีไปตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ทั้ง 3 คน หากได้รับความยุติธรรมก็จะดี ตนกังวลว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ซึ่งเมื่อเช้านี้ลูกสาวตำรวจได้นำเงินมามอบให้จัดงานศพในเบื้องต้นจำนวน 2 หมื่นบาท เพราะตำรวจบาดเจ็บซี่โครงหัก นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หากหมอให้ออกจากโรงพยาบาล ก็จะมาร่วมพิธีฌาปนกิจ และขอขมาผู้ตาย” นายโชคทวีกล่าว
น.ส.นิภาวรรณ หรือโบว์ อายุ 31 ปี ผู้โพสต์คลิปและเป็นหลานสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อคืนนี้ย่าขี่รถจักรยานยนต์ไปหาหลานชายที่เดินทางกลับมาจากไต้หวัน เสร็จแล้วย่าได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน มาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นปากซอยเข้าบ้าน ย่าจอดรถที่เส้นจราจรสีเหลือง เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยกลับบ้าน ได้มีตำรวจขี่รถเก๋งมาเร็วชนท้ายรถย่า จนย่ากระเด็นตกรถมีบาดแผลบริเวณศีรษะ ส่วนรถจักรยานยนต์กระเด็นห่างศพย่าไปประมาณ 10 เมตร ท้ายรถจักรยานยนต์ยุบเข้าไปครึ่งคัน พ่อไปที่เกิดเหตุทันที ตำรวจที่ขับรถชนย่าไม่พูดอะไร พ่อขอให้ตำรวจเป่าแอลกอฮอล์ แต่ตำรวจบอกว่าไม่มีเครื่องเป่า จึงให้เจาะเลือดไปตรวจหาแอลกอฮอล์ทั้ง 3 คน ทั้งตำรวจ ย่า และเจ้าของรถเฟอร์จูนเนอร์
“เราเป็นคนบ้านนอก ส่วนคู่กรณีเป็นตำรวจ กลัวว่าสำนวนคดี รูปคดี จะทำให้เราเสียเปรียบ เกรงว่าจะเป็นประมาทร่วม ทำให้เราเสียสิทธิ์ไม่ได้รับการเยียวยา ก็อยากได้รับความเป็นธรรม ที่กังวลก็เพราะร้อยเวรแจ้งว่าไม่ได้เอาเครื่องเป่าแอลกอฮอล์มาด้วย คู่กรณีเจ็บหน้าอกเป่าไม่ได้ กระทั่งพ่อไปเฝ้าให้ตำรวจที่โรงพยาบาล เพื่อเจาะเลือดไปตรวจหาแอลกอฮอล์ต่อหน้า” หลานสาวผู้เสียชีวิตกล่าว
น.ส.นิภาวรรณ เล่าต่อว่า ย่าเป็นคนสุขภาพแข็งแรงและขยัน แม้จะอายุมากก็ไม่อยู่นิ่ง ชอบขี่รถจักรยานยนต์ไปกับหลานที่พิการสมอง ไปเอามะพร้าวมาขาย วันเกิดเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปเก็บดอกมะลิมาขาย ส่วนลางสังหรณ์ เมื่อ 2 วันก่อน ย่าขี่รถจักรยานยนต์มาตามหาพ่อ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตที่บ้าน 2 ครั้ง แต่ไม่พบพ่อ เพราะพ่อออกไปหาเสียงเลือกตั้ง ย่าบ่นว่าอากาศร้อนและเหนื่อย ตนจึงได้เอาน้ำหวานให้ย่ากิน ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าย่ามีใบหน้าหมองคล้ำเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร รู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าวันสงกรานต์ที่เป็นวันรวมญาติๆ จะพากันมารดน้ำดำหัวญาติผู้ใหญ่ขอพร แต่กลายเป็นงานศพของย่าแทน
ด้าน พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ทราบเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้กำลังประชุมร่วมกับนายอำเภอ ในเรื่องขับขี่ปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ก็ได้ไปโรงพยาบาล และรับปากกับญาติผู้ตายว่า จะให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย โดยได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าจองคดี เจาะเลือดตำรวจ ผู้ตาย และผู้ขับรถเฟอร์จูนเนอร์ ไปตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งได้ส่งเลือดไปตรวจที่ สสจ.อุดรธานี ต้องรอผลการตรวจเลือด จะออกวันไหนยังไม่ทราบ เมื่อผลตรวจเลือดออกมาแล้ว ก็ให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริงและยุติธรรมที่สุด ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
