รถต้องสงสัยซิ่งหนี ก่อนแหกโค้งเสียชีวิต ตร.ยืนยันทำตามยุทธวิธี

(1 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ขับขี่รถ จยย.ไล่ตาม จยย.ต้องสงสัยที่ขี่ย้อนศรหลบหนี ก่อนรถต้องสงสัยหลุดโค้ง เป็นเหตุให้ผู้ต้องสัยสัยเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล เมื่อคืนที่ผ่านมา (31 พ.ค.-1 มิ.ย.68) และมีผู้โพสตฺเฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งตั้งคำถามกับการปฏิบัติงานของตำรวจนั้น

พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อคืนนี้สายตรวจ 2 คนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้ จยย.ของสายตรวจ สวมเครื่องแบบ และมีการติดกล้องที่หน้าอก หรือ บอดี้แคม แต่คนขี่ไม่ได้ติดเนื่องจากกล้องเสียอยู่ ระหว่างรอตัวใหม่ มีเพียงแค่ตำรวจที่ซ้อนท้ายที่ติดกล้อง ระหว่างออกตรวจมาถึงสี่แยกพระญาติ พบ จยย.ต้องสงสัย มาจอดตรงสี่แยก 3 คัน ก่อนที่ จยย.กลุ่มนี้จะหันหัวรถกลับและขี่ย้อนศรหลบหนีตำรวจสายตรวจไปทันที ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมต้องสงสัย ประกอบกับ จยย.เป็นท่อเสียงดัง ตำรวจสายตรวจจึงขี่ไล่ติดตาม มีการเว้นระยะห่างและไม่ได้ประชิดตัวแต่อย่างใด

โดยชายต้องสงสัย คือ นายณัฐพงศ์ หรือ แจ็ค (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ขี่รถย้อนศรหลบหนีไปเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตขี่รถเข้าโค้งด้วยความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกับทางเท้า ร่างกระเด็น ตำรวจสายตรวจที่ตามมาจึงลงไปตรวจสอบ พร้อมทั้งเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายผู้ต้องสงสัยดังกล่าวก็เสียชีวิต 

ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตรวจทำตามหน้าที่และตามยุทธวิธี ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่เนื่องจากพฤติกรรมต้องสงสัย ที่ตำรวจจำเป็นต้องตรวจสอบ และพร้อมให้ข้อมูลกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หากติดใจในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ ตนก็จะไม่เข้าข้างลูกน้อง แต่ตรวจสอบแล้วย้ำว่า ตำรวจทำตามยุทธวิธีทุกอย่าง ซึ่งก็มีกล้องติดหน้าอกของตำรวจสายตรวจที่ซ้อนท้าย เป็นหลักฐานอยู่ด้วย

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัตผู้เสียชีวิต พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดมีไว้เพื่อจำหน่ายตั้งแต่ปี 2555 , 2556 และปี 2561 แต่ขณะเกิดเหตุในครั้งนี้ ตำรวจไม่ได้มีการตรวจค้นตัว เนื่องจากต้องเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อน - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน