ก.ต่างประเทศ ยืนยันประชุม JBC แก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีตามกลไกทวิภาคี

ก.ต่างประเทศ ยืนยันประชุม JBC แก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีตามกลไกทวิภาคี

14105 มิ.ย. 68 19:02   |     AdminNews

กระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยันการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา 14 มิ.ย. นี้ เน้นแก้ปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีตามกลไกทวิภาคี

(5มิ.ย.) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ รวมไปถึงประเด็นสำคัญเรื่อง พัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยกล่าวว่า วันนี้ตนได้เข้าร่วมการประชุมกับคณะผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้หารือกันเกี่ยวกับการเตรียมการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา


สำหรับพื้นฐานและเป้าหมายของการหารือในวันนี้คือการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ซึ่งมีความสำคัญสูงสุดสำหรับกระทรวงการต่างประเทศ ในการหารือได้ย้ำถึงเป้าหมายอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน คือการมุ่งหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎหมายไทยและหลักกฎหมายระหว่างประเทศและที่สำคัญควรใช้กลไกทวิภาคีต่างๆ ที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หนึ่งในกลไกนั้นที่ได้ชี้แจงไปแล้วในหลายโอกาส คือการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC นอกจากนี้ยังมีกลไกคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC และกลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแล สถานการณ์ชายแดนที่มีความสงบเรียบร้อย


สำหรับกลไก JBC นั้น เป็นกลไกด้านเทคนิคสำหรับการหารือ สำรวจ และจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย - กัมพูชา ล่าสุดของกัมพูชา ได้กำหนดจะจัดการประชุม ดีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่กัมพูชา ซึ่งที่ประชุม คณะผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ได้พูดคุยถึงการเตรียมการประชุมของฝ่ายไทย โดยสรุปความตั้งใจ 3 ประเด็นดังนี้ 


  1. ใช้ประโยชน์จากกลไก JBC อย่างเต็มที่ควบคู่ไปกับกลไก GBC และ RBC โดยกลไก JBC ได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาในช่วงเวลา 26 ปี และได้แก้ไขปัญหาสำเร็จแล้วในหลายพื้นที่
  2. ใช้กลไกการประชุมกับฝ่ายกัมพูชาด้วยความสุจริตใจ 
  3. หวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชาโดยเฉพาะพี่น้องที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน


นอกจากนี้โฆษกยังได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ของรัฐบาล กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งในแถลงการณ์ของรัฐบาลมีเนื้อหาใจความว่า "ประเทศไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของ ICJ มาตั้งแต่ปี 2503 จนถึงปัจจุบัน โดยทั้งสองฝ่ายมีกลไกทวิภาคีในการจัดการประเด็นปัญหาชายแดนอยู่แล้วซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก 


ก่อนขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวให้ติดตามข่าวสาร และหลีกเลี่ยงการขยายข่าวที่อาจเป็นการปลุกระดมหรือเป็นการกล่าวหาอีกฝ่ายโดยไม่มีข้อมูล หรือข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเรื่องการ ปล่อยข่าวลือว่าพบททุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งในชั้นนี้จำเป็นต้องตรวจสอบรายละเอียดอย่างดีก่อน และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนไม่คาดการณ์สถานการณ์ไปเอง เพื่อลดการสร้างประเด็นที่อาจเป็นความขัดแย้งเพิ่มเติม 


ขอให้มั่นใจว่าประเด็นทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในการติดตามตรวจสอบอย่างละเอียดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีข่าวจากสื่อมวลชนหลายรายว่ากัมพูชาออกแถลงการณ์ไม่ร่วม JBC กับไทย ซึ่งตนขอย้ำว่าไม่เป็นความจริง จึงขอความกรุณาให้ระมัดระวังในการนำเสนอข่าวและการพาดหัวข่าวที่อาจจะคลาดเคลื่อน


จากกรณีข่าวที่มีการเผยแพร่ว่ากัมพูชาจะไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการ jbc ทางกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่ายังคงมีกระบวนการประชุมอยู่ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ เพียงแต่จะไม่มีการประชุมเรื่อง ช่องบก ประสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือน แต่จะเป็นการประชุมในเรื่องการกำหนดจุดจุดไหนจุดไหน ต้องรอให้การประชุมเสร็จสิ้นเสียก่อนกระทรวงการต่างประเทศจะมารายงานผลการประชุมอีกครั้ง โดย คาดหวังว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยลดความตึงเครียดของทั้งสองประเทศได้


นอกจากนี้ นายนิกรเดช ยังยืนยันว่า ไทยและกัมพูชาจะใช้กระบวนการเจรจา ระดับทวิภาคี เพื่อหาทางออกร่วมกัน


ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับกองกำลังทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน 200 เมตรนายนิกรเดช ระบุว่า ยืนยันตามที่นายภูมิธรรมเวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่โนแมนแลนด์ ซึ่งอยู่ใน กลไกในการดูแลของ คณะกรรมาธิการ JBC ซึ่งจุดที่ฐานกัมพูชาเข้ามานั้น เป็นการล้ำเข้ามาในจุดพื้นที่ทับซ้อน แต่ยังไม่ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดข้อตกลง แต่ยังไม่ใช่การบุกรุก


ส่วนท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำการประท้วง ไปยังทูตกัมพูชาถึง 4 หนซึ่งทั้งหมด ยังไม่เกี่ยวข้องกับ เรื่องที่กัมพูชา จะยื่นต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือ ICJ


กรณีที่กัมพูชาจะดึงประเทศอินโดนีเซีย มาเป็นตัวกลาง ในการไกล่เกลี่ย หรือเรียกว่า Third Party เพื่อให้ไทย ยอมรับเข้าสู่ศาลโลก เบื้องต้นทางกระทรวงยังไม่ได้รับรายงาน


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat