เหยื่อคอลเซ็นเตอร์ 4 คนไทยเผยนาทีชีวิตวิ่งข้ามแดนหนีแก็งเครือข่ายกัมพูชา

วันที่ 11 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับทหารพราน กองร้อยที่ 1201 กองกำลังบูรพา สนธิกำลังตรวจสอบชายหญิงชาวไทย 4 ราย ที่เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ หลังหนีจากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา

ชายไทยรายแรก อายุ 35 ปี ชาวสมุทรสาคร ให้การว่า ถูกหลอกผ่านช่องทางออนไลน์ให้เดินทางไปทำงานเปิดบัญชีม้าในประเทศเพื่อนบ้าน อ้างให้ค่าตอบแทนบัญชีละ 8,000 บาท จึงนั่งรถตู้จากบ้านเกิดมายังตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว ก่อนมีคนมารับตัวข้ามแดนไปยังฝั่งปอยเปต

เมื่อถึงที่พักซึ่งเป็นตึก 3 ชั้น กลับถูกยึดเอกสารส่วนตัวและสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่มทันที แต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงไว้ ภายในตึกพบว่ามีชาวไทยรวมอยู่กว่า 100 คน เดินเข้าออกตลอดเวลา สุดท้ายตัดสินใจหนีข้ามกลับฝั่งไทย ยืนยันไม่ขอกลับไปอีก

ส่วนชายไทยอีกราย อายุ 43 ปี ชาวนครราชสีมา เคยทำงานอยู่ในชลบุรี ให้การว่า เคยตั้งใจไปร่วมงานกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์โดยสมัครใจ หวังทำงานเกี่ยวกับการเปิดบัญชีและคาสิโนออนไลน์ แต่เมื่อเดินทางถึงกลับถูกบังคับให้โทรศัพท์หลอกลวงคนไทย หากขัดขืนจะถูกทำร้ายร่างกาย

เขาถูกกักขังนานถึง 3 เดือน ทนไม่ไหวจึงใช้กรรไกรตัดเล็บแทงชายไทยผู้ควบคุม ก่อนฉวยโอกาสหลบหนีกลับประเทศไทย เผยว่าผู้ควบคุมเป็นชายไทยพูดชัด แต่งกายคล้ายแก๊งยากูซ่า ผิวขาว ตาตี่ มีรอยสักเต็มตัว พร้อมแสดงความเสียใจและแค้นใจที่คนไทยด้วยกันหลอกกันเอง

หญิงสาวอีก 2 รายให้ข้อมูลคล้ายกัน พร้อมกล่าวอย่างเข็ดหลาบว่า "ไม่กลับไปอีกแล้วค่ะ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

มาตราการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา 3 วัน คดีหลอกลวงออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ลดลงถึง 31.45%

เปิดใจ 2 คนไทย หนีตายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนจีนฝั่งกัมพูชา