หมายเรียก 2 ครั้ง ไร้วี่แววเจ้าของ "หอมหาภัย"
หมายเรียก 2 ครั้ง ไร้วี่แววเจ้าของ "หอมหาภัย"

ยังเงียบ! เจ้าของ "หอมหาภัย" ไม่ไปรายงานตัว ตร.-สคบ. ตามหมายเรียก - นักศึกษาทยอยขนของหนี หวั่นถูกข่มขู่
วันที่ 8 พฤษภาคม 68 ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์รายงานบรรยากาศบริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัยรังสิต หรือที่ถูกเรียกขานกันในโลกโซเชียลว่า "หอพักมหาภัย" หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีเจ้าของหอพักใช้สัญญาเช่าที่ไม่เป็นธรรม เอารัดเอาเปรียบและมีพฤติกรรมคุกคามผู้เช่าหอพัก โดยวันนี้พบว่า มีนักศึกษาจำนวนมากเร่งขนย้ายข้าวของออกจากหอพักแทบทุกห้อง โดยมีตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยรังสิต มาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่านักศึกษาอาจถูกข่มขู่
ผู้ปกครองจำนวนหนึ่งเดินทางมาด้วยรถกระบะ เพื่อช่วยลูกหลานขนของออกจากหอพัก โดยหลายรายระบุว่าก่อนหน้านี้ไม่กล้าออก เพราะกลัวถูกดำเนินคดีตามที่ถูกขู่ไว้ แต่หลังมีผู้เสียหายรายแรกกล้าออกมาเปิดเผย พวกเขาจึงเริ่มกล้าตัดสินใจย้ายออก
น้องส้ม (นามสมมุติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เปิดใจว่า ตนอยู่หอพักนี้มา 3 ปี และอยากย้ายออกตั้งนานแล้ว เนื่องจากเจ้าของหอมีพฤติกรรมแปลก เช่นหากเพื่อนมาหาที่หอพัก จะถูกกล่าวหาว่าจะมาขโมยของ และถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง รวมถึงชอบใช้นักศึกษาไปซื้อของให้ เช่น กาแฟ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเหยียดลูกจ้างชาวเมียนมา ตนเคยเห็นกับตาว่าลูกจ้างชาวเมียนมาต้องก้มกราบเท้าเจ้าของหอ เพราะถูกดุด่าว่ากล่าวอย่างรุนแรง จนรู้สึกสะเทือนใจ
ด้านแม่ของ "น้องมีน" นักศึกษาที่เป็นผู้เสียหายรายแรก เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนได้เดินทางไปพบกับสภาทนายความ พร้อมผู้เสียหายรายอื่น เพื่อขอคำปรึกษาทางกฎหมาย โดยได้รับคำแนะนำว่า หากผู้เช่าอาศัยอยู่ในหอพักนานเกินครึ่งของระยะเวลาในสัญญา สามารถย้ายออกและแจ้งขอยกเลิกสัญญาภายหลังได้ รวมถึงสามารถไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเรื่องเงินประกัน ขึ้นอยู่กับการเจรจา และต้องตรวจสอบด้วยว่าหอพักดังกล่าวได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
สำหรับกรณีของลูกสาว ตนยังไม่ได้รับเอกสารราชการที่ถูกยึดคืน และทางเจ้าของหอพักก็ยังไม่เข้าพบตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ สคบ. ตามหมายเรียกทั้งสองครั้ง จึงเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของหอพักเข้าชี้แจงรายละเอียดในเวลา 10.00 น. แต่เจ้าของหอพักก็ยังไม่เดินทางไปตามนัด เช่นเดียวกับที่ไม่ยอมเข้าพบตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย แม้จะมีหมายเรียกถึง 2 ครั้งแล้ว
เจ้าหน้าที่ สคบ. และตำรวจเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย โดยหากยังเพิกเฉย อาจมีการออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้หอพักดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา และยังพบว่าไม่ได้ขออนุญาตเปิดกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน