วจป.จับภาพฝรั่งซิ่งเก๋งชนรั้วบ้านทะลุ หวิดขยี้เด็ก 8 ขวบ

วจป.จับภาพฝรั่งซิ่งเก๋งชนรั้วบ้านทะลุ หวิดขยี้เด็ก 8 ขวบ

14504 มิ.ย. 68 21:25   |     AdminNews

เฒ่าฝรั่งเมืองผู้ดีซิ่งวีออสพุ่งชนรั้วบ้านทะลุ หวิดทับหลานเจ้าของบ้านวัย 8 ขวบ ก่อนทิ้งรถเดินหนีเข้าหอพัก ตำรวจตามตัวสอบเจอไม่มีแอลกอฮอล์

เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 4 มิถุนายน 2568 พ.ต.อ.เผ่า แสงกงพลี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์พุ่งชนกำแพงรั้วบ้านเลขที่ 49/22 ซอยมั่งคั่ง 1 หมู่ 5 บ้านดงอุดม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี


ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน กบ 5579 ขอนแก่น พุ่งชนรั้วคอนกรีตเสียหายทะลุเป็นช่องกว้างราว 3.5 เมตร ตัวรถเข้าไปในบริเวณบ้านจนถึงเกือบทั้งคัน กันชนหน้าหลุด กระจกหน้าแตก น้ำมันเครื่องรั่ว ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับและเบาะข้างแตกทั้งคู่


จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านขายของชำฝั่งตรงข้ามบ้าน พบว่ารถคันดังกล่าวขับออกจากลานจอดรถข้างร้านซักผ้าหยอดเหรียญในเวลา 15.59 น. ก่อนจะพุ่งตรงไปชนกำแพงบ้าน


นายประยูร แสนเวียน อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งเลี้ยงไก่อยู่บริเวณบ้าน ส่วนหลานสาววัย 8 ขวบ กำลังนั่งระบายสีอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ด้านหลัง จังหวะที่หลานเดินลงจากแคร่เพื่อมาขอเงินซื้อขนม รถเก๋งของฝรั่งก็พุ่งชนกำแพงเข้ามาพอดี เคราะห์ดีที่หลานหลบทัน แม้จะตกใจจนร้องไห้แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ


หลังเกิดเหตุ คนขับรถที่เป็นชายชาวต่างชาติ อายุราว 70 ปี ได้เปิดประตูรถเดินออกจากบ้านไปที่หอพักซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยไม่พูดจาอะไรเลย


ขณะเดียวกัน นายสมาน กิ่งพุดซา อายุ 65 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า เห็นชาวต่างชาตินำเสื้อผ้ามาซัก และนั่งสตาร์ทรถอยู่พักหนึ่ง โดยเครื่องยนต์ติด ๆ ดับ ๆ ก่อนจะพุ่งออกไปชนกำแพงบ้าน เขายังเห็นฝรั่งหยิบเงินปึกใหญ่จากหน้าคอนโซลรถก่อนจะเดินหนี จึงไม่กล้าเข้าไปยุ่ง


ภายหลังตำรวจได้ติดตามไปยังหอพัก และพบว่านายไนเจล แอนโทนี่ อายุ 72 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นผู้ขับรถชนบ้าน หลังสอบปากคำและตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย


เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเรียกนายประยูร เจ้าของบ้าน และนายแอนโทนี่ คนขับรถ มาพูดคุยเจรจาชดใช้ค่าเสียหายที่โรงพัก พร้อมแจ้งรถยกมายกรถออกจากจุดเกิดเหตุเพื่อนำไปเก็บรักษาที่สถานีตำรวจ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat