จับแล้วลูกเจ้าของโรงเรียนไล่ยิงชาวบ้านตาย 2 ศพ คาวัดดังย่านภาษีเจริญ

จับแล้วลูกเจ้าของโรงเรียนไล่ยิงชาวบ้านตาย 2 ศพ คาวัดดังย่านภาษีเจริญ

20110 ก.ค. 68 15:16   |     AdminNews

สลดรับวันพระใหญ่! ชายคลั่งยิงดับ 2 ศพคาวัดดังย่านภาษีเจริญ ตร.เผยผู้ก่อเหตุแบบสุ่มยิง

วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เวลา 06:30 น คนร้ายคลั่ง บุกจ่อยิงชาวบ้านดับ 2 ศพ ย่านวัดคูหาสวรรค์วรวิหาร เขตภาษีเจริญ คนในพื้นที่เผยผู้ก่อเหตุเป็นลูกเจ้าของโรงเรียน คาดมีอาการหลอน คลั่งยาเสพติด

มีรายงานว่าเกิดเหตุยิงสนั่นกันในวัดคูหาสวรรค์ วรวิหาร แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นหญิง 1 คน คือ น.ส.ศิริพร ขจรศิริพงษ์ และชาย 1 คน คือ นายติ่ง อายุ 51 ปี โดยเบื้องต้นทราบว่า คนยิงถูกตำรวจควบคุมตัวไปที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว


เบื้องต้นทราบชื่อ ผู้ก่อเหตุคือ นายกิตติเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตำรวจได้คุมตัวและยึดของกลางได้รวม 14 รายการ ประกอบด้วย


1. อาวุธปืนก๊อก 19 ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุน บรรจุภายในแม็คซีนจำนวน 7 นัด

2. อาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 พร้อมกระสุนบรรจุภายในลูกโม่จำนวน 7 นัด

3. อาวุธปืนลูกซองยาวยี่ห้อเลมินตั้น (ไม่มีกระสุน) จำนวน 1 กระบอก

4. ซองปืนแบบพกในสีดำจำนวน 1 ซอง

5. ซองปืนลูกโม่แบบพกในจำนวน 1 ซอง

6. แมกกาซีนยาวขนาด 30 นัด พร้อมกระสุนบรรจุภายในแมกกาซีนจำนวน 25 นัด

7. แม็กกาซีนก๊อกขนาด 15 นัดพร้อมกระสุน ภายในเมกกะซีนจำนวน 10 นัด

8. แมกกาซีนก๊อกขนาด 15 นัดพร้อมกระสุน ภายในแมกกาซีนจำนวน 11 นัด

9. แมกกาซีนก๊อกขนาด 15 นัด พร้อมกระสุน ภายในแมกกาซีนจำนวน 11 นัด

10. สปีดโหลดลูกโม่พร้อมกระสุน 7 นัด จำนวน 4 โม่

11. กระสุน .38 จำนวน 14 นัด พร้อมบรรจุอยู่ในกระเป๋ากระสุน

12. กล่องเก็บกระสุนปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนจำนวน 43 นัด

13. อุปกรณ์ชุดสปริงปืนจำนวน 1 ชุด

14. กระเป๋าสะพายข้างสีดำ 1 ใบ


นายสำอางค์ ชาวเรือหัก น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ได้ยินเสียงปืนเมื่อเช้า ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ จากนั้นก็เห็นนายปาร์ค ผู้ก่อเหตุที่ใช้ปืนยิงนายติ่ง เสียชีวิตในวัด เมื่อเช้านายติ่ง ยังไปซื้อบุหรี่มานั่งสูบอยู่ที่หน้าวัดนี้ โดยหลังจากก่อเหตุก็เดินกลับเข้าไปในโรงเรียน จากนั้นก็มารู้ว่ามีผู้หญิงถูกยิงตายก่อนหน้านี้ที่มายิงนายติ่งที่วัด


ขณะที่ชาวบ้าน ที่อยู่ในชุมชน บอกว่า ได้โทรศัพท์บอกลูกสาวของน.ส.ศิริพร แล้วว่าแม่ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิต ก็กำลังป่วยเป็นโรคไตอยู่ด้วย ต้องพาไปฟอกไตอยู่เป็นประจำ ส่วนผู้ก่อเหตุก็ทราบเบื้องต้นว่าเป็นลูกชายของเจ้าของโรงเรียน และติดยาเสพติดมานานแล้ว คนในชุมชนรู้ดีว่าเขาติดยา ส่วนวันนี้ก็คาดว่าเล่นยาหนักไปหน่อย ก่อนจะออกมาก่อเหตุแบบนี้ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุก็เห็นว่ามีจำนวนมาก ไม่รู้ว่าเอามาจากที่ไหน


ก่อนเกิดเหตุเบื้องต้นรับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการคลั่งยาเสพติด มีอาการหลอน ฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงชื่อหลี เล่นคุณไสยทำของตอกตะปูใส่หัวตนเอง จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ในขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังซักผ้า ส่งผลให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 


หลังจากที่ยิงเสร็จ ตนก็เดินออกมาหน้าวัด บังเอิญเจอคนรู้จักอีกราย ชื่อติ่ง เลยยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่แล้ว ก็เป็นคนที่อยู่ละแวกนี้เดียวกันรู้จักกัน แต่ว่าไม่เป็นคู่อริกันหรือไม่เคยมีเรื่องราวต่อกัน แต่เพราะเกิดอาการกลั้นยาเลยก่อเหตุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน


ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนางสาวศิริฉัตร อายุ 29 ปี ลูกสาวของนางสาวศิริพร ผู้เสียชีวิต ระบุว่าไม่ทราบว่าเรื่องราวเกิดขึ้นได้อย่างไร ทราบเพียงว่ามีชาวบ้านโทรมาแจ้งว่าแม่ถูกยิง และเมื่อสอบถามว่าใครเป็นคนยิง ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่แน่ใจว่าเกิดจากอาการทางจิตเวชหรือหลอนยาจนมายิงแม่


อย่างไรก็ตาม มองว่าเหตุการณ์นี้อุกอาจเกินไป เนื่องจากแม่อยู่ในพื้นที่ของตนเอง แต่ผู้ก่อเหตุเข้ามาแล้วยิงทันที ไม่ชัดเจนว่าเป็นการเจตนาหรือเกิดจากอาการหลอนจากยาเสพติด แต่ไม่ควรเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะในแหล่งชุมชนใกล้โรงเรียนและสถานศึกษา หากวันนั้นโรงเรียนไม่ปิด และผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปกราดยิงในโรงเรียน จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ปัญหาเริ่มต้นจากเรื่องยาเสพติด


แม่เป็นคนในพื้นที่ ส่วนผู้ก่อเหตุก็เป็นลูกของผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่เดียวกัน อาจรู้จักกันสมัยวัยรุ่น แต่ไม่ทราบว่าเจตนาเป็นอย่างไร มองว่าไม่ควรเกิดเหตุแบบนี้ และจากการพูดคุยกับตำรวจ ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีสารเสพติดในร่างกาย มีอาวุธติดตัวหลายกระบอก และพกกระสุน จึงมองว่าเป็นการกระทำที่มีการไตร่ตรองไว้แล้ว ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชน


อีกประเด็นที่ยังคงกังวลคือ ผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานของผู้อำนวยการโรงเรียน จึงกังวลว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะฝ่ายนั้นมีเส้นสายและฐานะ ส่วนตนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา จึงตั้งคำถามว่าจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่


แม้จะมีภาระงานและต้องเลี้ยงดูลูก ไม่มีเวลาซัพพอร์ตแม่มากนัก แต่ก็ส่งเสียดูแลตามกำลัง หากไม่สามารถติดตามเรื่องจนถึงที่สุด และผู้ก่อเหตุใช้เส้นสายประกันตัวออกมา กลับไปใช้ชีวิตปกติ ก็จะยิ่งรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมและยังคงมีความกังวลว่า หากศาลตัดสินให้จำคุกเพียงไม่กี่ปี แล้วกลับมาใช้ยาอีก ปัญหาเดิมก็จะเกิดซ้ำ และการปราบปรามยาเสพติดก็ยังไม่สิ้นสุด และอยากบอกอีกว่า ผู้ปกครองควรทราบว่าลูกตนเองมีพฤติกรรมอย่างไร ควรพาเข้ารับการบำบัดหรือไม่ อาวุธในบ้านได้มาจากไหน หากไม่ได้ทำงาน มีเงินซื้อยาเสพติดและอาวุธจากที่ใด ไม่มีใครนำมาให้ฟรี ๆ


แม้จะไม่ต้องการถือโทษหากเหตุเกิดจากสารเสพติด แต่เมื่อลูกใครก็ต้องได้รับการดูแล โดยเฉพาะหากทราบว่าลูกมีปัญหาก็ควรพาไปรักษา เพราะหากวันหนึ่งไม่ใช่แม่ของตนที่ถูกยิง แต่เป็นคนในครอบครัวของผู้ก่อเหตุเอง ก็อาจเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียได้มากขึ้น


สุดท้ายต้องการบอกแม่ว่าแม้ไม่ได้ดูแลจนถึงที่สุด แต่แม่ก็คือแม่ และแม่ก็ผ่านความเจ็บปวดมามากแล้ว หลังจากนี้จะขอติดตามเรื่องให้ถึงที่สุด


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat