“โดนัลด์ ทรัมป์” นับถอยหลัง ลุ้นเป็นประธานธิบดีสมัยที่ 2

(เรียบเรียงโดย ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)

โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ เกิดวันที่ 14 มิถุนายน 1946 ที่ย่านควีนส์ รัฐนิวยอร์ก เป็นบุตรชายของ เฟรด ทรัมป์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทรัมป์จบการศึกษาจากสถาบันการทหารนิวยอร์ก และวิทยาลัยวอร์ตันด้านการเงินและการพาณิชย์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

ทรัมป์รับช่วงต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของพ่อ ในช่วงปี 1971 และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบริษัททรัมป์ออร์แกไนเซชัน (Trump Organization) ซึ่งในเวลาต่อมา ธุรกิจก็ค่อย ๆ ขยายออกไปทั้งคาสิโน คอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟ และโรงแรม ซึ่งมีทั้งในแอตแลนติกซิตี้ ชิคาโก และลาสเวกัส ไปจนถึงอินเดีย ตุรกี และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ทรัมป์เคยเป็นนักเขียนหนังสือมากมาย อย่างไรก็ตามในปี 1987 เขาก็เริ่มหยั่งเชิงทางด้านการเมืองตำแหน่งประธานาธิบดี ด้วยการเข้าร่วมการแข่งขันในปี 2000 กับพรรคปฏิรูป จากนั้นในปี 2012 ได้เข้าร่วมอีกครั้งภายใต้สังกัดพรรครีพับลิกัน

ทรัมป์เคยมีภรรยามาแล้ว 2 คน โดยมีลูกกับคนแรก 3 คน และคนที่ 2 อีก 1 คน ก่อนจะอย่าร้างกันไป และได้แต่งงานใหม่กับภรรยาคนปัจจุบัน คือ เมลาเนีย ทรัมป์ อดีตนางแบบชาวสโลวีเนีย ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันคนเดียวคือ บาร์รอน วิลเลียม ทรัมป์

ในปี 2015 ทรัมป์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี โดยสัญญาว่าจะ "นำความฝันแบบอเมริกันกลับมาอย่างยิ่งใหญ่และดีกว่าเดิม" ก่อนจะเปลี่ยนบทบาทจากนักธุรกิจมาเป็นพิธีกร ปีถัดมาทรัมป์ได้เดินเส้นทางการเมืองเต็มตัว และชนะการเลือกตั้งได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 ด้วยสโลแกนที่โด่งดังคือ “Make America Great Again.” (ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง) โดยรับตำแหน่งในช่วงต้นปี 2017 ถึงแม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน แต่ก็สามารถทำงานในฐานะผู้นำสหรัฐฯได้จนครบวาระ

ในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์โด่งดังในเรื่องนโยบายกีดกันทางการค้ากับต่างชาติ แต่กลับเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก แคนาดา จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และยังใช้นโยบายควบคุมชายแดนที่เด็ดขาด และสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯกับเม็กซิโกขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้เสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ในปี 2018 ด้วยการเป็นผู้นำสหรัฐฯคนแรกที่เข้าพบปะหารือในการประชุมสุดยอดผู้นำกับคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้มีเรื่องราวถกเถียงมากมาย จากนั้นปีถัดมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จึงยื่นถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลใช้อำนาจในทางที่มิชอบ และกีดขวางการทำงานของสภาคองเกรส แต่ในปี 2020 วุฒิสภาของสหรัฐฯก็ตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีความผิดในสองประเด็นดังกล่าว

แต่ทรัมป์ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด 19 ในสหรัฐฯ ที่เตรียมแผนรับมือกับโรคระบาดล่าช้าอย่างมาก และมีรายงานชาวอเมริกันกว่า 400,000 คนเสียชีวิตจากโควิด 19 หลังทรัมป์พ้นวาระ ส่งผลให้ในปลายปี 2020 ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับโจ ไบเดน

ทรัมป์ไม่ยอมรับผลกล่าวหาว่ามีการโกงเกิดขึ้น จากนั้นก็เกิดกลุ่มคนที่ออกมาสร้างความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของทรัมป์ และการที่ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยุยงจนผู้สนับสนุนเขาบุกอาคารรัฐสภา ทำให้สภาผู้แทนราษฎรยื่นถอดถอนทรัมป์อีกครั้ง ในปี 2021

เมื่อ โจ ไบเดน สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ก็ไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมในฐานะประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ปิดฉากลงเพียงแค่นั้น และในครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทรัมป์หวนกลับคืนสู่การชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยมีคู่แข่งเป็นสตรีตัวเต็งอย่าง กมลา แฮร์ริส ที่มีคะแนนสูสีกันเป็นอย่างมาก ต้องรอลุ้นกันว่าศึกชิงเก้าอี้ในครั้งนี้จะเป็นของใคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “กมลา แฮร์ริส” ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ ปธน.หญิงคนแรกสหรัฐ