'เสรีพิสุทธิ์' เข้าพบ ผบ.ตร. แจ้งความดำเนินคดี 'ฮุนเซน'

'เสรีพิสุทธิ์' เข้าพบ ผบ.ตร. แจ้งความดำเนินคดี 'ฮุนเซน'

9023 มิ.ย. 68 12:34   |     AdminNews

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ร้อง ผบ.ตร. เอาผิดฮุนเซน สั่งฆ่านักเคลื่อนไหวต่อต้านในไทย ลิม กิมยา และพร พันนา

23 มิ.ย.68 เมื่อเวลา 10.00 น.พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียะเวช หัวพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าพบ พลตำรวจเอกกิตดิ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือจากพรรคเสรีรวมไทย ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เอาผิดนายฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา 


โดยพลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เข้าหารือและยื่นหนังสือนานร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดเผยว่า จากกรณีคลิปเสียงในสื่อต่างประเทศอัลจาซีร่าที่นำเสนอว่า เป็นเสียงนายฮุนเซนสั่งให้นายเคลียงฮวด รองผู้ว่าการกรุงพนมเปญ สั่งไล่ฆ่าบุคคลเห็นต่างทางการเมืองที่อยู่ในประเทศไทย โดยมีตำรวจเสื้อแดงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งตนเองไม่อยากจะไปพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร พ่อของนายกรัฐมนตรี ที่สื่ออัลจาซีร่านำเสนอในสกู๊ปข่าวด้วย เพราะไม่ใช่แค่กรณีลิม กิมยา ยังมีกรณีของนายพร พันนา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ทั้งที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติให้สถานะผู้ลี้ภัยแล้ว แต่นายฮุนเซนก็ยังสั่งการให้นายเคลียงฮวดส่งคนตามไล่ฆ่า จนปรากฎว่า นายพร พันนา ได้ถูกชายแปลกหน้า 3 คน ที่พูดภาษาเขมร ทุบตี ที่จังหวัดระยองได้รับบาดเจ็บที่หน้าและหน้าอกในเดือนสิงหาคม 2566 


ตามหลักฐานที่ปรากฎตนเองเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถเอาผิดนายฮุนเซนได้ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดนเสนอแนะตั้งเป็นชุดทำงาน เชิญอัยการสูงมาร่วมทำคดีด้วย เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพราะถือว่าเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งก็สามารถรวบรวมและขอออกหมายแดง 


โดยเอกสารที่ตนนำมายื่นให้ประกอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ที่บัญญัติว่าผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด และความผิดนั้นมีอัตราโทษไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ก็จะต้องรับโทษในความผิดบัญญัตินั้นเสมือนเป็นตัวการ


ตนเองเป็นอดีตตำรวจไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปเรียกใครมาสอบสวน จึงจำเป็นต้องให้ลูกน้องเก่าซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายไปดำเนินการติดตามจับกุม วันนี้ตนมาเสนอแนะ สิ่งที่เกิดขึ้นและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตำรวจจะสอบสวนฝ่ายเดียวไม่ได้ต้องให้อัยการสูงสุดมาเป็นพนักงานสอบสวนร่วมด้วย


เมื่อถามย้ำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถดำเนินการได้จริงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่าสามารถทำได้ ถ้าเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ก็สามารถนำไปสู่หมายจับได้เช่นกัน ขอให้อย่าดูถูกฝีมือของลูกน้องเก่าตนเพราะสมัยนี้มีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า


ส่วนกรอบระยะเวลาตนเองไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่ เพราะมีหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ แต่หากตำรวจไม่ทำก็จะเข้าข่ายความผิดมาตรา 157 ซึ่งตนเองจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


กรณีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กรณีคลิปเสียงการพูดคุย ระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ สมเด็จฮุน เซน ตนเองมองว่าเป็นการแก้เกี้ยวไม่ได้เป็นการดำเนินคดีสมเด็จฮุนเซนจริง 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat