พรรคประชาชนจี้นายกฯ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ
พรรคประชาชนจี้นายกฯ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ

“เท้ง ณัฐพงษ์” นำทีม สส.พรรคประชาชนแถลงจี้ “แพทองทาง” ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน
(19 มิ.ย. 68) ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรื่องปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส.ลูกพรรค แถลงข่าวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ชี้เหตุการณ์คลิปเสียงหลุดระหว่างนายกรัฐมนตรีกับอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ถือเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ที่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และต่อภาวะผู้นำของประเทศไปจนหมดสิ้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่กรณีคลิปเสียงหลุดเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) และการประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย นำมาสู่การลาออกจากตำแหน่งรองผู้แทนราษฎรของนายภราดร ปริศนานันทกุล ในเช้าวันนี้ เขาเห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดตอกย้ำว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนไปจนหมดสิ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยมีการ "ตระบัดสัตย์" จัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้ว ซึ่งพรรคประชาชนได้เคยเตือนแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศได้
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นอีกหนึ่งวิกฤตของผู้นำประเทศ ที่ น.ส.แพทองธาร ได้ทำลายความเชื่อมั่นต่อผู้นำประเทศไปจนหมดสิ้น บรรยากาศในสังคมขณะนี้เต็มไปด้วยข้อเรียกร้องที่หลากหลาย เขาและเพื่อนสมาชิกพรรคจึงออกมาแถลงเพื่อส่งข้อเรียกร้อง 2 ประการ คือ เพื่อเตือนสติสังคมไทยและร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ
เขากล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ปรากฏในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจยุบสภา, การเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก, ไปจนถึงการเรียกร้องให้ใช้ "อำนาจนอกระบบ" อย่างการรัฐประหาร ซึ่งนายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าเข้าใจถึงความรู้สึกของประชาชนที่ขาดความเชื่อมั่นต่อผู้นำประเทศ แต่ขอเชิญชวนประชาชนตั้งคำถามกับตัวเองว่าต้องการอะไร เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องการรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้
"ผมเชื่อว่าทุกท่านต้องการรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้รัฐบาลที่มีความชอบธรรม รัฐบาลที่3ารถสร้างฉันทมติใหม่ สร้างสรรค์ใหม่ นะครับ ให้กับประชาชนคนไทยได้ ดังนั้นกลไกการปฏิวัติรัฐประหารไม่ใช่ทางออกแน่นอน" นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำ
ส่วนการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงพอหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่าภายใต้สมการทางการเมืองและจำนวน ส.ส. ในสภา รวมถึงจุดยืนของพรรคประชาชนที่ชัดเจนว่าจะไม่เป็นรัฐบาลภายใต้สภาชุดนี้ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ เช่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ การใช้ช่องทางลาออกไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด และไม่ใช่รัฐบาลที่ดีที่สุดที่จะสร้างทางออกให้กับประเทศได้
"สิ่งที่จะเป็นทางออกให้กับประเทศ คือการยุบสภาเปิดโอกาสให้ทุกพรรคนะครับ นําเสนอนโยบายของตัวเองเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเขาซึ่งเป็นอํานาจสูงสุดของเขาในการตัดสินใจเลือกรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง"
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ถ้าคิดเห็นตรงกันว่าการใช้อำนาจนอกระบบไม่ใช่ทางออก รวมถึงการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ ก็ไม่ใช่ทางออก และหากไม่ได้ต้องการอยู่ในอำนาจต่อ เพื่อต่อรองตำแหน่งต่างๆ แต่ต้องการหาทางออกให้ประเทศไทยเพื่อสร้างรัฐบาลที่มีความชอบธรรมมากกว่า เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชนกลับมา
นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าหากมีการประกาศยุบสภา พรรคประชาชนพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทันที ทั้งโครงสร้างภายในพรรคและนโยบายที่เตรียมมาหลายปี รวมถึงชุดกฎหมายอีกหลายชุด ที่พร้อมจะผลักดันหากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
เมื่อถูกถามถึงกรณีที่การยุบสภาอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางบประมาณปี 2569 ที่กำลังดำเนินการอยู่ นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินระดับหนึ่ง และสามารถใช้งบประมาณปี 2568 ไปพลางก่อนได้ หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่สามารถผ่านสภาได้ ซึ่งในภาพรวมงบประมาณปี 2569 กับปี 2568 แทบไม่ต่างกันมากนัก เขาเชื่อว่าการมีรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมสูงและตั้งใจแก้ไขปัญหา จะสามารถจัดทำงบประมาณที่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศได้มากกว่า ถึงแม้จะมีความล่าช้าไปบ้าง
เกี่ยวกับการทูตและการสื่อสารระหว่างประเทศ นายณัฐพงษ์ มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปเสียงหลุด ที่นายกรัฐมนตรีพยายามใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวและมีการสื่อสารที่อาจมีปัญหา เช่น การบอกว่ารัฐบาลอยู่ตรงข้ามกับกองทัพ ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีก็สื่อสารว่าตนเองกำกับดูแลกองทัพมาโดยตลอด ถือเป็นปัญหามากกว่า เขามองว่าสิ่งที่จำเป็นคือการใช้เวทีระหว่างประเทศแบบทวิภาคีในการเจรจาพูดคุยหาทางออก แต่กลับไม่เห็นการสื่อสารในลักษณะนั้นจากนายกรัฐมนตรี
ในตอนท้าย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หน้าที่ของกองทัพคือการปกป้องประเทศ ส่วนการสื่อสารทางการเมืองหรือที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาลพลเรือน กองทัพมีหน้าที่ทำตามคำสั่งภายใต้รัฐบาลพลเรือนเท่านั้น เขาไม่ต้องการเห็นการสื่อสารจากตัวแทนของกองทัพที่พยายามใช้กระแสในปัจจุบันเพื่อนำไปสู่กระบวนการที่จะได้รัฐบาลใหม่ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามกลไกในระบอบประชาธิปไตย
นายณัฐพงษ์ ทิ้งท้ายว่า ต้องรอดูผลการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคในวันนี้ หากพรรคเพื่อไทยยังคงคุมเสียงข้างมากได้ ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนก็จะเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งพรรคประชาชนพร้อมที่จะใช้กลไกทุกอย่างในสภาเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาโดยเร็วที่สุด
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พรรคเพื่อไทย"ย้ำไม่มีทางตันทางการเมือง ครม.ชุดใหม่เริ่มงานทันที เอาผิดคนปล่อยข่าวส่งคืนวัตถุโบราณให้กัมพูชา
