ผู้การจ๋อ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ร.ต.อ.ปลอมตัวสวมชุดนักมวยปล้ำ รวบหนุ่มจีน
ผู้การจ๋อ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ร.ต.อ.ปลอมตัวสวมชุดนักมวยปล้ำ รวบหนุ่มจีน
ผู้การจ๋อ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ร.ต.อ.ปลอมตัวสวมชุดนักมวยปล้ำ รวบหนุ่มแดนมังกร ล่วงละเมิดเหยื่อสาว หลังจากพบกันในห้าง ตะลึงพบภาพและคลิปหญิงสาวจำนวนมาก
(3 ธ.ค.67) “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” แผนการสุดแหวกแนวของชุดสืบนครบาล เรียกว่าแหวกทุกมิติการจับกุมผู้การจ๋อให้ ร.ต.อ.ปลอมตัวด้วยชุดแฟนตาซีนักมวยปล้ำ โดยมี สายสืบ 6 ชีวิต แอบในตู้เสื้อผ้า ซอกเตียง ระเบียงห้อง ก่อนรวบตัว หนุ่มชาวจีนแนวโรคจิตแนว NTR ที่ลงมือล่วงละเมิดนิสิตปี 1 อย่างซาดิสต์และตระเวนถ่ายใต้กระโปรงเด็กนักเรียนเพียบ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดอ้างเครื่องสวมไว้ที่คอคืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ในตอนมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องทางคดีตนไม่ยอมรับ ขยายผลพบมีคลิปของเหยื่อถูกกระทำชำเราอย่างซาดิสซ์และที่น่าตกใจคือพบคลิปการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายซู (Mr.Su) อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5716/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย”
ตรวจยึดของกลาง
1.โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง (พบคลิปการล่วงละเมิดเหยื่อ , คลิปการมีเพศสัมพันธ์แนวซาดิสต์และคลิปการแอบถ่ายใต้กระโปรงจำนวนมาก)
2.เชือกคล้องคอ 1 เส้น (ใช้เพื่อการมีเพศสัมพันธ์)
จับกุมตัวได้ที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่าน ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นนิสิตปี 1 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังใจกลางกรุง วัย 18 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ว่าได้ถูกชายหนุ่มชาวจีนกระทำชำเรา โดยเหตุเกิดในช่วงเย็นของวันที่ 19 พ.ย. 67 ผู้เสียหายได้พบกับคนร้ายที่บริเวณชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน คนร้ายได้เข้ามาทักทายทำทีเป็นนักท่องเที่ยวด้วยเหยื่อที่เป็นนักศึกษาและกำลังฝึกพูดภาษาจีน ผู้เสียหายจึงถูกคนร้ายลวงไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี ก่อนจะลงมือกระทำชำเรา ซ้ำยังแอบถ่ายคลิปวีดิโอเหยื่อไว้ตลอดการลงมือ โดยที่เหยื่อไม่ยินยอม พยายามปัดป้อง หลังเกิดเหตุเหยื่อกลับไปที่บ้านในสภาพที่ย่ำแย่ แต่เรื่องคงยังไม่จบเพราะด้วยคนร้ายมีคลิปเปลือยของเหยื่อสาว คนร้ายยังพยายามส่งข้อความมาเชิงให้กลับไปให้คนร้ายกระทำชำเราอีก โดยจะกระทำทางประตูหลัง และจะพาชายอื่นมาร่วมกระทำกับเธออีก เธอไร้ทางออกจึงได้ตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้กับครอบครัวฟัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับคนร้ายชาวจีนรายนี้ แต่การสืบสวนติดตามนั้นไม่ง่ายเพราะคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปทั่วหาตัวจับได้ยาก
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. วิเคราะห์แผนประทุษกรรมและอุปนิสัยของคนร้าย ก่อนตัดสินใจใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ โดยใช้นกต่อสาวสวยล่อให้คนร้ายมาติดกับดัก แต่ความวิปริตก็เกิดขึ้นเมื่อคนร้ายดันร้องขอกับนางนกต่อให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี มาร่วมหลับนอนด้วยแบบ “สวิงกิ้ง” คนร้ายจึงจะยอมมาพบกับนางนกต่อ โจทย์ที่ยากเกิดขึ้นกับทีมสืบสวน แต่ก็เป็นเพียงหนทางเดียวที่คนร้ายจะปรากฏตัว ตัดสินใจส่ง ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ปลอมตัวเป็นชายหื่นสายซาดิสต์ “สวมแฟนตาซี” แทททูลายสักให้เหมือนชาวต่างชาติ เข้าไปร่วมเกมสวาทกับคนร้าย กระทั่งคนร้ายพอใจนัดหมาย “ทรีซั่ม” กับนางนกต่อและ ร.ต.อ.ปลอมตัว โดยสั่งให้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรี
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ส่งชุดสืบนครบาลเข้าไปแอบในห้องพักเพื่อดักรอให้คนร้ายปรากฏตัว สายสืบ 6 ชีวิต แอบในตู้เสื้อผ้า ซอกเตียง ระเบียงห้อง รอคอยการปรากฏตัวของคนร้ายอย่างใจจดใจจ่อ กระทั่งเวลา 19.30 น. เสียงเคาะประตูดังขึ้น ร.ต.อ.ปลอมตัวในชุดนักมวยปล้ำ เดินไปเปิดประตู คนร้ายกับท่าทีระแวดระวังตัวสวมสิ่งปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด เดินเข้ามาเมื่อ ร.ต.อ.ปลอมตัว ถามชื่อจนมั่นใจว่าเป็นคนร้าย ก็ได้ส่งสัญญาณ “ฮี่ๆๆๆๆ” ทันใดนั้นชุดสืบสวนที่แอบอยู่ทั้งหมดก็ออกมาตะครุบตัวไว้ได้ทันที
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “รู้สึกตกใจมาก บวกกับก่อนมาถูกจับกุมตนเองได้โด๊ปยาชูกำลังมาเต็มเครื่อง โดยที่สวมไว้ที่คอคืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ในตอนมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องทางคดีตนไม่ยอมรับ ขอปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ ตนมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้มาประกอบธุรกิจสแกมเมอร์ใดๆ” หลังการจับกุมชุดสืบสวนขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์คนร้ายเป็นจำนวนมาก โดยมีคลิปของเหยื่อผู้เสียหายถูกกระทำชำเราอย่างซาดิสต์แล้วยังพบคลิปที่คนร้ายได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายอื่นๆอีกหลายราย และที่น่าตกใจคือพบคลิปการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และยังพบหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าคนร้ายมีรสนิยมทางเพศในลักษณะ NTR
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าคนร้ายรายนี้เป็นชาวต่างชาติ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เรียกได้ว่าเป็นคนที่หาตัวจับยาก เราจึงต้องใช้หลักการและทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนร้ายมาช่วยในการสืบสวนติดตามตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถล่อคนร้ายมาติดกับดักเราได้ เพราะไม่หากใช้เวลานาน อาจจะมีสุภาพสตรีตกเป็นเหยื่อเพิ่ม ส่วนในทางคดี เราขยายผลพบพยานหลักฐานสำคัญทางคดี ซึ่งเราจะมีการนำส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีกับคนร้าย แต่ที่น่าตกใจคือคนร้ายรายนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในประเทศไทยได้เพียงไม่นาน แต่ปรากฏว่ามีการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวในที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และมีพฤติกรรมที่หมกมุ่นทางเพศเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำมิดีมิร้ายใดๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น.”
หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป