ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน แก๊งอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”
ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน แก๊งอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้”

ตำรวจกาญจนบุรีออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน ร่วมแก๊งอุ้มฆ่า “ดีเจเตเต้” หลังตามจับได้แล้ว 1 คน เจอ 5 ข้อหาหนัก - เมียของผู้ต้องสงสัยที่เชื่อเป็นผู้สั่งการ เตรียมเข้าให้ปากคำวันนี้
(19 พ.ค. 68) ความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของนายวราพงษ์ หรือดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบศพในป่าบริเวณบ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยสภาพศพขึ้นอืด ถูกมัดมือไพล่หลัง และชันสูตรพบว่าโดนยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 2 นัด
หลังพบศพ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่สั่งการเอง ขณะที่ตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีจับกุมนายธนเดช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยรายแรกไว้แล้ว
ล่าสุด ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่
1.นายนพพิจิตร
2.นายธราเทพ
3.นายภคนัท
4.นายณรงค์เดช
โดยมีข้อกล่าวหาทั้งหมด 12 ข้อ ซึ่งในจำนวนนี้มี 5 ข้อหาหนัก ดังนี้
1.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้การขู่เข็ญให้กลัวว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน และร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร
2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมีการไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย
3.ร่วมกันกระทำต่อศพหรือบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
5.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น พร้อมข้อหาสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดตามกฎหมาย
ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยรวม 5 คน โดยหนึ่งในนั้นคือนายธนเดชที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 ราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะทึ่ทางด้านทนายรณรงค์ แก้วเพชร พร้อมด้วยพ่อและญาติๆของดีเจเตเต้ เดินทางเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาหนัก ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและปิดบังอำพรางศพ
ด้านพ่อของดีเจเตเต้ เปิดใจว่า มาที่นี่เพื่อตามหาลูกชายที่ถูกอุ้มหายไป และต้องการหลักฐานยืนยันว่าลูกยังมีชีวิตหรือไม่ ซึ่งวันนี้ได้เห็นร่างลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และขอขอบคุณตำรวจที่ใช้เวลาเพียง 5-6 วันในการติดตามจนทราบความจริง ขั้นตอนต่อไป จะดำเนินการชันสูตรศพ และนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหนองกระทุ่ม ก่อนจะส่งลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดี
ในขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้พูดกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเอนเตอร์เทน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบกับอาชีพของเด็กเอนเตอร์เทนหรือไม่อย่างไร ซึ่งผู้ประกอบการคนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า จริงๆ แล้วส่วนตัวร้านเราไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก เพราะร้านเราจะเน้นให้บริการออนไลน์เป็นหลัก และที่ร้านก็มีมาตรการชัดเจนว่าจะไม่ปล่อยเด็กออกไปนอกร้านเด็ดขาด ลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวจะต้องอยู่ในสายตาของพนักงานและอยู่ภายในร้านเท่านั้น
กลุ่มลูกค้าของเราก็มีความหลากหลาย ทั้งลูกค้าท้องถิ่น คนต่างจังหวัด และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งทุกคนเข้าใจกฎกติกาของร้านดีว่าเด็กที่ดูแลจะได้รับการดูแลเฉพาะภายในร้าน ไม่ออกไปนอกร้าน และทางร้านเองก็ไม่ส่งเด็กออกไปข้างนอกด้วย ในช่วงนี้ เราต้องพึ่งพาสื่อออนไลน์เป็นหลักในการเข้าถึงลูกค้า เพราะหากเน้นแค่ลูกค้าท้องถิ่นอย่างเดียว คงจะค่อนข้างลำบาก
ส่วนฝากถึงเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวที่มาเมืองกาญจนบุรี อยากบอกว่า เมืองกาญจน์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติ ร้านอาหาร และสถานบันเทิงกลางคืน ทุกที่ต่างก็มีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า ถ้าเที่ยวในระบบและอยู่ในกรอบที่กำหนด จะปลอดภัยแน่นอน
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีจะได้นำตัวนายธนเดช เชื้อทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มหายของดีเจเตเต้ เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมและมีรายงานว่าวันนี้นางสาวน้ำภรรยาของนายมุ้ย ที่เชื่อว่าเป็นคนสั่งฆ่าดีเจเตเต้ จะเดินทางมาให้ปากคำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในวันนี้
ทางด้านนายกุน น้องแท้ๆของนายธนเดช ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าดีเจเตเต้ ได้เดินทางมาเยี่ยมนายธนเดช ที่กำลังสอบปากคำอยู่ โดยทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายกุน ชี้แจงว่า ตนเดินทางมาเยี่ยมพี่ชายและเชื่อว่าพี่ชายตนเองบริสุทธิ์ ในส่วนของนายเหลือและนายหนึ่งที่มีหมายจับอยู่ตอนนี้ตนเองยืนยันว่าไม่ได้รู้จักและไม่เคยสนิทด้วยเพียงแต่เคยเห็นหน้าเท่านั้น
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบไรเดอร์มือแทงคู่อริหนุ่มพนักงาน ทต.ช้างเผือก อาการสาหัส อ้างสางแค้น ปมพักห้องตรงข้าม ถูกตะโกนด่าทอ-ให้ของลับหลายครั้ง
