เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 'นายดาบ' ยกพวกรุมกระทืบ 'ผู้กอง'

จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 17 พ.ย.2567 ร.ต.ท.หญิง จิดาภา เกิดมีโภชน์ รองสว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง รายงานเหตุตำรวจร่วมกันทำร้ายร่างกายตำรวจ ที่ร้านอาหาร ซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา นั้น 

• ศึกตำรวจ! ดาบตำรวจ ยกพวกรุมตื้บ ร.ต.อ. โรงพักเดียวกัน ฉุนว่าน้องในกลุ่ม

ล่าสุด วันที่ 19 พ.ย.67 ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุ ณ ร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณ ซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร โดยพบว่า วันนี้ร้านดังกล่าวยังไม่เปิดให้บริการ ซึ่งจะเปิดร้านในช่วงเวลาประมาณ 18:00 น. - 01.00 น. ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านละแวกจุดดังกล่าวไม่มีใครทราบข้อมูลแต่อย่างใด เนื่องจากเวลาช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางดึก 

ทีมข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้น ทางเจ้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำ ร.ต.อ.เกียรติคุณ รอง สว.สส.สน.โคกคราม ซึ่งผู้เสียหาย และด.ต.กิตติ ซึ่งเป็นตำรวจยศดาบตำรวจ ฝ่ายปราบปราม สน.โคกคราม ซึ่งเป็นฝ่ายกรณี โดยเป็นการสอบแยกกันทั้งสองฝ่าย 

ในส่วนของการสืบสวนนั้น อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทางกล้องวงจรปิด และพยานในที่เกิดเหตุมาประกอบ เพื่อยืนยันตัวบุคคลว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ละคนทำอะไรในที่เกิดเหตุบ้าง เพราะ ณ ตอนเกิดเหตุนั้น เหตุการณ์ค่อนข้างที่จะชุลมุน

โดยในวันเกิดเหตุนั้น ร.ต.อ.เกียรติคุณ ได้ให้การว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้เสียหายได้แวะไปที่ร้านอาหาร ผับ บาร์ แห่งหนึ่ง เพื่อไปหาพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของร้าน และได้นั่งเล่นพูดคุยกับพนักงานในร้าน เนื่องจากรู้จักกัน แต่ไม่ได้มาเพื่อดื่มเหล้า โดยระหว่างนั้นได้พกพาอาวุธปืน ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. สีดำ มูลค่าราคาประมาณ 78,000 บาท ติดตัวมาด้วย โดยพกไว้เหน็บที่บริเวณเอวฝั่งขวา

ต่อมาเวลาประมาณ 02.00 น. ร้านกำลังจะปิดร้าน และมีพนักงานเริ่มทำความสะอาด กำลังเคลียร์พื้นที่ จากนั้นได้มีชาย 1 ราย ชื่อ นายบ่าว ซึ่งผู้เสียหายได้รู้จักบุคคลดังกล่าว เนื่องจากนายบ่าวเคยเป็นพนักงานที่ร้าน ทำหน้าที่เป็นการ์ดและรปภ. ก่อนจะถูกไล่ออกไป นอกจากนี้นายบ่าวยังเคยก่อเหตุสร้างความวุ่นวายภายในร้านมาก่อนอีกด้วย 

จากนั้นทางเจ้าของร้านอาหารเห็นจึงเกิดความไม่สบายใจเพราะกลัว ว่านายบ่าวจะเข้ามาก่อเหตุความวุ่นวายภายในร้าน จึงไปขอความช่วยเหลือกับทางผู้เสียหายประกอบกับก่อนหน้านี้ผู้เสียหายสังเกตเห็นว่า ขณะที่นายบ่าวได้พากลุ่มเพื่อนจำนวนประมาณ 8 คนมาเที่ยวที่ร้านกลุ่มของนายบ่าวนั้นมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ภายในร้าน 

นอกจากนี้ผู้เสียหายยังสังเกตเห็นว่าภายในกลุ่มเพื่อนของนายบ่าว หนึ่งในนั้น มีด.ต.กิตติ ซึ่งเป็นตำรวจ ยศดาบตำรวจ ฝ่ายปราบปราม สน.โคกคราม ซึ่งเป็น สน.เดียวกันกับผู้เสียหาย ที่ได้เดินเข้ามาพร้อมๆ กันกับกลุ่มเพื่อนของนายบ่าว ผู้เสียหายจึงได้เดินไปทักทาย หลังจากนั้นจึงได้นั่งร่วมวงที่โต๊ะเดียวกันบริเวณด้านหลังสุดของร้าน

ต่อมา ผู้กล่าวหาได้คุยกับ ด.ต.กิตติ และปรึกษาเรื่องนายบ่าว ถึงเหตุการณ์ตอนที่นายบ่าวและกลุ่มเพื่อนเข้ามาภายในร้านอาจจะสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง ผู้กล่าวหาจึงเป็นกังวล แต่ ด.ต.กิตติ เกิดความไม่พอใจ จึงเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องราวทะเลาะกัน และในระหว่างนั้นแฟนของ ด.ต.กิตติ ได้ลุกขึ้นตามมาทุบตีทำร้ายผู้เสียหาย 

จากนั้นทางผู้เสียหายจึงได้ยกมือป้องกันตัว แต่กลุ่มเพื่อนของนายบ่าวเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามารุมล็อกแขน และล็อกตัวผู้กล่าวหา จากนั้น ด.ต.กิตติ ได้สั่งให้กลุ่มชายประมาณ 8 คน กดตัวผู้เสียหายลงที่พื้นแล้วรุมต่อย ก่อนจะมีเจ้าที่ตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้เข้ามาห้ามเหตุการณ์ไว้ ผู้เสียหายจึงได้หลุดออกมาจากสถานการณ์ดังกล่าว และมีคนมาช่วยแต่ไม่สามารถจำได้ว่าเป็นผู้ใด จากนั้นผู้กล่าวหาจึงได้ไปโรงพยาบาลลาดพร้าว เพื่อรักษาตัว 

สำหรับทางคู่กรณีนั้นได้มีการให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุ ทางคู่กรณีสังเกตุเห็นว่า ผู้เสียหายได้มีการพกพาอาวุธปืนเข้ามาในร้าน จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงช่วยกันจับล็อคผู้เสียหายไว้ 

โดยจากการตรวจสอบไปยังต้นสังกัดของผู้เสียหาย และทางคู่กรณี ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เข้าใจผิดกัน ในส่วนของตั้งข้อกล่าวหานั้น เบื้องต้น ทางเจ้าที่ตำรวจจะได้มีการตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอผลชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายว่า จะเข้าข่ายสาหัสหรือไม่

ในส่วนกรณีที่ผู้เสียหาย และคู่กรณีเป็นเจ้าที่ตำรวจทั้งคู่นั้น เบื้องต้นตนได้มีการพูดคุยกับทางต้นสังกัดหน่วยงานของทั้งสองคนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะต้องดำเนินคดีทางอาญาประกอบกับทางผู้เสียหายเองก็ได้มีการพกพาอาวุธปืนเข้ามาภายในร้าน ทางต้นสังกัดก็ต้องมีการตรวจสอบว่า พฤติกรรมดังกล่าวนั้นมีเหตุอันควรหรือไม่ อยู่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ หากตรวจสอบแล้วมีความผิดทางผู้เสียหายเองจะมีการโดนตั้งข้อกล่าวหา ในส่วนของพกพาอาวุธปืนเข้ามาโดยไม่มีเหตุอันควร 

หากถามว่าหน่วยงานจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบหรือไม่นั้นในส่วนของสน.โคกครามนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ ในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหาที่มีเจ้าที่ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหานั้น นั้นทางเจ้าที่ตำรวจสน.วังทองหลางจะมีการทำหนังสือไปแจ้งที่บกน.2 และสน.โคกครามว่า ข้าราชการตำรวจต้องคดีโทษทางอาญา ซึ่งทางต้นสังกัดก็จะมีการดำเนินการทางวินัยต่อไป