สอบเครียด 8 ชั่วโมง! 2 สาวผู้จัดงานวิ่ง อ้างออร์แกไนซ์เทงานกะทันหัน
สอบเครียด 8 ชั่วโมง! 2 สาวผู้จัดงานวิ่ง อ้างออร์แกไนซ์เทงานกะทันหัน

ตำรวจสอบ 2 สาวผู้จัดงานกว่า 8 ชั่วโมง หาเหตุงานวิ่ง “Run for Destination 2025” ล่ม เจ้าตัวอ้างออแกไนซ์เทงานกระทันหัน – ยันทยอยเยียวยานักวิ่ง
วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 จากกรณีดราม่างานวิ่ง “Run for Destination 2025” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 แต่กลับไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ ส่งผลให้นักวิ่งจำนวนมากเดินทางมาแต่พบว่าไม่มีการจัดงานแต่อย่างใด ทำให้กลุ่มผู้เสียหายพากันเข้าแจ้งความที่ สน.ประเวศ ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเอาผิดกับผู้จัดงานในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน หญิงสาว 2 ราย อายุ 31 ปี และ 42 ปี ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทที่จัดงาน ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ โดยใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง พร้อมยืนยันจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าการจัดงานครั้งนี้มีข้อบกพร่องจริง
นักแสดงสาวชื่อดัง “พิตต้า” ซึ่งถูกว่าจ้างให้มาเป็นพิธีกรในงานวิ่ง เดินทางมาที่ สน.ประเวศ เพื่อเข้าพูดคุยกับผู้จัดงาน โดยเจ้าตัวแสดงความผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เจรจากับทางบริษัทจนกระทั่งเวลา 17.30 น. จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อร่วมกับผู้จัดงาน ซึ่งได้ยกมือไหว้ขอโทษต่อหน้ากล้องและนักข่าว
หนึ่งในผู้จัดงานกล่าวว่า ตนกับหุ้นส่วนได้ร่วมกันเปิดบริษัทเพื่อรับจัดงานอีเวนต์หลากหลายรูปแบบ แต่งานวิ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก โดยยืนยันว่ามีการขออนุญาตจากสำนักงานเขตประเวศและสวนหลวง ร.9 อย่างถูกต้องแล้วเดิมตั้งใจจัดงานช่วงปลายปี 2567 แต่เมื่อยอดผู้สมัครมีเพียงไม่ถึง 100 คน จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 พร้อมคืนเงินให้ผู้ที่ไม่ต้องการรอ และลดค่าสมัครให้สำหรับผู้ที่ยังร่วมกิจกรรมต่อ
ทั้งนี้ ผู้จัดเผยว่ามีการจ้างบริษัทออร์แกไนซ์มาช่วยดำเนินการจัดงานในช่วงแรก แต่เมื่อถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนงานเพียงไม่กี่วัน ทางออร์แกไนซ์กลับแจ้งถอนตัวเนื่องจากติดคิวงานที่อื่น ทำให้ต้องรีบจัดหาทีมงานใหม่ในเวลาจำกัด แต่ติดปัญหาว่าบริษัทส่วนใหญ่รับงานเต็ม เนื่องจากวันเดียวกันมีงานวิ่งหลายพื้นที่
“เราพยายามทำทุกอย่างเอง ทั้งติดต่อเวที เต็นท์ ทีมงาน สตาฟ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเกิดข้อผิดพลาดมากมาย รวมถึงป้ายไวนิลที่หน้าซุ้มซึ่งพิมพ์ผิดเป็นปี 2028 เพราะไม่ได้ตรวจสอบอาร์ตเวิร์กก่อนพิมพ์” หนึ่งในผู้จัดเผย
ในส่วนของของที่ระบุในแพ็กเกจสมัคร ผู้จัดยืนยันว่าส่งมอบครบถ้วนให้กับนักวิ่งกลุ่มแรก 600 คน ทั้งหมวก เสื้อ กระเป๋า นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ และหมายเลขวิ่ง (Bib) ส่วนผู้สมัครรอบหลัง ได้รับเสื้อและ Bib ทางไปรษณีย์ พร้อมแนบสติกเกอร์ให้เลือกสิ่งของที่เหลือไปรับหน้างาน ทว่าเกิดปัญหาใหญ่ในวันรับ Bib เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากทีมสตาฟที่ว่าจ้างมาเป็นฟรีแลนซ์ ไม่สามารถควบคุมหรือจัดการระบบได้ดีพอ จนนำไปสู่ความวุ่นวาย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่หัวหน้าทีมสตาฟนำเสื้อวิ่งไป 100 ตัว อ้างว่าจะไปจำหน่ายด้านหน้าสวนหลวงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจะคืนยอดเงินในวันที่ 18 พฤษภาคม แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่ส่งยอดคืน ทำให้ผู้จัดต้องลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ประเวศ และติดต่อประสานงานเพื่อให้มีการโอนเงินกลับคืน
ด้านอีกหนึ่งผู้จัด กล่าวเสริมว่า ก่อนวันงานหนึ่งวัน เกิดปัญหาหลายประเด็น ทั้งการจัดส่ง Bib ตกหล่น การเปลี่ยนไซซ์เสื้อ รวมถึงมีนักวิ่งจำนวนมากยังต้องการสมัครแม้จะปิดรับสมัครแล้ว ซึ่งบางรายระบุว่าแค่ต้องการวิ่ง ไม่ต้องการของแถม แต่เมื่องานไม่สามารถจัดได้ ก็เข้าใจดีว่าทุกคนผิดหวัง
ส่วนบริษัทที่รับหน้าที่ติดตั้งเวที เต็นท์ และจุดปล่อยตัว ได้ยกเลิกงานและโอนเงินคืนตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม ทำให้ทีมงานต้องหาอุปกรณ์ทดแทนในเวลาอันสั้น จึงไม่สามารถจัดเตรียมงานได้อย่างสมบูรณ์
ผู้จัดทั้งสองรายยอมรับว่า ความผิดพลาดส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่ชำนาญ เพราะเป็นครั้งแรกที่จัดงานวิ่ง แต่ไม่ได้ตั้งใจให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ยอมรับผิดทั้งหมด ในส่วนของข้อผิดพลาดอาจจะเกิดข้อผิดพลาดที่มันเยอะมาก เนื่องจากตนเพิ่งจัดงานเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และ ยืนยันว่าจะชดใช้ และ เยียวยาผู้เสียหายเท่าที่จะทำได้ แต่ขอเวลาไปปรึกษากับทางบริษัทก่อน หากตรงไหนที่สามารถเยียวยาได้ก็จะเยียวยาตามความเหมาะสม และขอยืนยันว่าจะทยอยเยียวยานักวิ่งผู้เสียหายให้เหมาะสมที่สุด พร้อมประกาศว่า บริษัทที่จัดงานไม่ได้มีนายทุนหรือกลุ่มทุนจากต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการร่วมทุนกันเพียง 2 คนเท่านั้น และจะยังดำเนินธุรกิจต่อแม้จะต้องสร้างความเชื่อมั่นใหม่อีกครั้ง
ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบความเสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยในเบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหา แต่จะดำเนินการหากพบว่ามีมูลความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง