“ไทด์ ” ให้ข้อมูลคดีแตงโม - DSI เตรียมใช้โซนาร์สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยา

“ไทด์ ” ให้ข้อมูลคดีแตงโม - DSI เตรียมใช้โซนาร์สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยา

9013 ก.พ. 68 12:50   |     AdminNews

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล “DSI" มั่นใจรอยกรีดลึกยาวไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ย้ำจำได้ทุกบาดแผล ตั้งข้อสงสัยเรือลำใหญ่ของเสี่ยคนหนึ่งที่เจอร่างแตงโมเป็นคนแรก ทั้งที่เรือมูลนิธิ-เรืออาสาสมัครกว่า 40 ลำขับวนหาหลายวันกลับไม่เจอ

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 13 ก.พ. 68 ที่ ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนเลขที่ 20/2568 คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงตามหนังสือเชิญบุคคลเข้าให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ


โดยนายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเกี่ยวกับการที่ตนได้เจอร่างน้องแตงโมในวันแรก เพื่อให้ข้อมูลเรื่องสรีระน้องแตงโมว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรตรงไหนหรือไม่ที่มันผิดไปจากอุบัติเหตุ หรือว่าการใด เพราะตนเป็นคนแรกที่เอาร่างน้องแตงโมมาพลิกในส่วนของสรีระทั้งหมดว่าตรงไหนมีอะไรผิดปกติบ้างเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายรูปไว้เป็นพยานหลักฐานต่าง ๆ หากตกเรือแล้วเจอใบพัดเรือ ตกไปในน้ำแล้วเสียชีวิต จะเป็นใบพัดเรือตรงไหน ซึ่งตนได้เปิดทุกอย่างในร่างกายของน้องแตงโม ก็ได้เจอบาดแผล ซึ่งตนจำได้ว่าร่างน้องแตงโมมีอะไรบ้างที่ติดหรือโดนของแข็ง หรือของมีคม หรือตรงไหนมีรอยขีดข่วน ตนจำได้ เพราะตนได้นั่งอยู่กับร่างน้องประมาณ 1 ชม. จากที่เกิดเหตุไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ 


นายเอกพันธ์ เผยอีกว่า การที่ตนจำได้เพราะเป็นคนได้พลิกร่างน้องจากคำสั่งเจ้าหน้าที่ สั่งเปิดผม เปิดหน้า บีบปาก เอาแขนกางเอาขากางเพื่อดูร่องรอยบาดแผล ตนทำเยอะและนานจนจำได้ว่าร่างน้องมีอะไรตรงไหนบ้าง อย่างไรก็ตาม ในครั้งแรกที่ตนออกมาให้ข่าวสื่อมวลชน มันมี 1 จุดที่น่าสงสัยว่าอาจไม่ได้โดนใบพัดเรือ คือ ช่วงโคนขาขวา เพราะมันรอยยาวและลึกมากจนเห็นเนื้อยุ่ย ซึ่งตรงนี้น่าจะทำให้เสียชีวิต เพราะพอตกลงน้ำก็ว่ายน้ำไม่ไหวเพราะบาดแผลนี้ได้ แต่ตนก็มาฉุกใจคิดว่ามันไม่น่าใช่ใบพัดเรือ เพราะเท่าที่ตนสัมผัสงานกู้ภัยมาเยอะ การโดนใบพัดเรือ แผลจะไม่ใช่ลักษณะแบบนี้ ตนเลยคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นเรื่องบาดแผลได้ ค่อนข้างมั่นใจว่าพิรุธสุดแล้ว อีกทั้งยังมีเรื่องรอยขีดข่วนลักษณะเป็นรอยก้างปลาที่ก็ไม่ลึกพอ และยังมีจุดข้างน่องขาขวามีเหมือนของแหลมแทงเข้าไป มีไขมันออกมากับเนื้อ จึงเรียกได้ว่ามีจุดพิรุธ 2 จุดนี้ที่ใหญ่สุด คือ โคนขาขวาด้านใน และข้างน่องขาขวา


นายเอกพันธ์ เผยต่อว่า วันนี้ตนจะตอบดีเอสไอเท่าที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบถาม ส่วนเรื่องใบไม้ที่ติดเส้นผม และเรื่องเรือลำแรกที่เจอน้องแตงโม คือ เป็นของใครตนไม่ทราบ แต่ในวันนั้นตนได้ขับวนตรงเวิ้งน้ำนั้นประมาณ 1 ชม. แล้วก็ได้ไปที่วัดแดงธรรมชาติ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี เพราะมีคนบอกว่าให้ไปขอพรที่นั่นเพราะศักดิ์สิทธิ์มาก ก็เลยขับเรือไปถึง 5 นาที จุดธูปขอให้เจอร่างน้องแตงโม พอขอพรเสร็จก็ขับเรือออกมาไม่ถึง 3 นาที ก็เห็นเรือเสี่ยคนนั้นลอยแม่น้ำมาแล้วหยุดตรงกลางแม่น้ำ ซึ่งที่ตนเองมองจากไกล ๆ ก็เห็นเรือหลายลำทั้งเรือมูลนิธิ และเรืออาสาสมัครมุ่งหน้าไปตรงนั้น จนได้ยินเสียงคนโวยวายว่าเจอแล้ว ตนเลยขับเรือเข้าไปถึงเรือลำนั้น และตนก็นำเรือไปเทียบกับเรือลำใหญ่ แต่ก็โดนต่อว่าว่าเรือตนไปกระแทกเขา แต่วันนั้นลูกน้องตนเป็นคนขับเรือ ตนก็ขอโทษ แล้วไปขึ้นเรือกับเรืออาสาจนไปถึงร่างน้องที่ลอยคว่ำหน้าในน้ำ และมีเพียงผ้าดิบที่อาสาสมัครเตรียมไว้จะผูกร่างน้องเพื่อขึ้นฝั่ง แต่ตนมองว่าน้องแตงโมจะโป๊ได้ เพราะน้องใส่แค่บอดี้สูท จึงขอผ้าดิบ 2 ผืนเพื่อพาน้องขึ้นฝั่งแทน จะลากไว้ข้างเรือไม่ได้ เลยเอาขึ้นเบาะและใช้ผ้าดิบคลุมร่างไว้


นายเอกพันธ์ เผยด้วยว่า ต้องยอมรับว่าเราขับวนหากันหลายวัน มีทั้งเรืออาสาสมัคร เรือมูลนิธิกว่า 50 ลำ ค้นกันนานก็ไม่เจอ แต่เรือลำใหญ่มาไม่นาน วน 2-3 รอบ เขากลับเจอ ซึ่งพอเรือลำใหญ่เจอ เรืออื่นทุกลำก็มุ่งหน้าไปที่ตรงเรือลำใหญ่กันว่าเจอร่างหรืออะไร อย่างไร พอไปถึงจึงเห็นว่าเป็นร่างน้องแตงโม ทั้งนี้ ต่อให้ตนเล่ากี่ครั้งมันก็ยังเหมือนเดิมตามสิ่งที่ได้เห็นได้เจอ นอกจากนี้ ในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ได้รับโทรศัพท์มือถือแตงโมกลับมา ตนมองว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้กระจ่างได้บ้าง หากนำไปเทียบกับคำให้การของคนบนเรือ 


นายเอกพันธ์ ยังเผยว่า ในวันที่เจ้าหน้าที่ให้ตนช่วยพลิกร่างน้องแตงโม ตนยืนยันว่าตนเห็นมีฟันซี่บนหักแน่นอน ไม่น่าใช่คราบดินโคลน ส่วนการแต่งกายของร่างน้องตอนเจอคว่ำหน้าในน้ำ เสื้อผ้าชุดคลุมจะถูกนำมาสวมตอนไหนนั้น ตนไม่ทราบ แต่มันมีใบไม้ 2-3 ใบ ติดอยู่บนเส้นผม ซึ่งอาจลอยมาจากน้ำแล้วมาติดที่ผมก็เป็นได้ เพราะเศษต่าง ๆ มันอาจลอยติดที่เส้นผมแล้วออกยากต้องใช้มือรูด แต่ถ้าติดหลังหรือเสื้อผ้ามันน่าจะโดนน้ำพัดออกไปบ้าง ทั้งนี้ ในอีก 11 วันก็จะครบรอบการเสียชีวิตของน้อง ตนมองว่าคนทั่วประเทศรออยู่ รอลุ้นทุกวัน ลุ้นข้อมูลใหม่ให้มีปาฏิหาริย์จริง ๆ ว่าคืนวันที่ 24 ก.พ.65 มันเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรน้อง มั่นใจว่าคนไทยให้กำลังใจคนที่พยายามค้นหาความจริงอยู่


ล่าสุดนายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนให้ข้อมูลดีเอสไอโดยใช้เวลากว่า 2 ชม. ในการให้รายละเอียดเกี่ยวกับร่างของแตงโมโดยเน้นไปที่บาดแผลเป็นสำคัญและวัสดุที่ทำร้ายซึ่งดีเอสไอได้ถามกับตนย้ำมากที่สุดคือ บาดแผลของแตงโมมันเกิดจากใบพัดเรือจริงหรือไม่ ซึ่งตนยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าบาดแผลไม่ได้เกี่ยวกับใบพัดเรือแน่นอน รวมถึงมันมีรอยด่างๆที่ภาพของดีเอสไอมาให้ตนดูซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ในการนำขาของแตงโมไปทดลองว่าถ้าโดนใบพัดเรือจริงๆมันจะเป็นอย่างไร มันจึงทำให้ตนเห็นว่าภาพที่ตนเห็นจริงๆกับภาพจำลองมันต่างกันมากจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนคุยกับเจ้าหน้าที่นานยอมรับว่าวันนี้ที่ตนคุยกับดีเอสไอเขาสงสัยหลายเรื่อง


ทางวชิระได้รับแจ้งมาว่าชาวบ้านพลัดตกจากเรือบนทรายแต่เขาไม่ได้บอกว่าเป็นแตงโม ซึ่งตอนนั้นตนก็งงว่าเป็นคนตายหรือเรือขนทราย แต่เขาก็บ้าอกว่าตกจากเรือขนทราย ที่เขาให้พวกตนมาตรวจสอบครั้งแรกเลยตอนนั่น คือคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 22.40 น. ของคืนเกิดเหตุ ทีมมูลนิธิได้รับแจ้งจากชาวบ้านผ่านศูนย์วชิระว่ามี "คนพลัดตกเรือขนทราย" จึงอยากให้มาตรวจสอบแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นน้องแตงโม และเมื่อทีมมูลนิธิไปถึงจุดรับแจ้งเหตุก็ไม่พบอะไร ซึ่งน้องในทีมเล่าให้ตนฟังว่าได้สอบถามชาวบ้านมีเรือลำหนึ่งขับวนไปมา 


ต่อมา ทีมมูลนิธิฯ เรียกตำรวจมาช่วยตรวจสอบ จึงใช้ไฟฉายเรียกเรือลำดังกล่าวเข้าฝั่ง สอบถามเหตุการณ์คนตกเรือ แต่ในเรือลำนั้นมีคนคล้ายลักษณะผู้หญิงบอกว่าเป็นน้องแตงโม จากนั้น มีการเตรียมทีมนักประดาน้ำช่วยค้นหากันทั้งคืน ในบริเวณท่าน้ำพิบูลสงคราม สำหรับเรือขนทรายในตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเห็น พบเพียงแค่เรือลำนั้นขับวนอยู่ลำเดียว ส่วนเครื่องประดับของน้องแตงโมพบว่ามีทั้งสร้อยคอ ตุ้มหู ยังอยู่ครบ จากประสบการณ์ที่ตนเคยเก็บศพในน้ำมาเยอะสภาพผิวหนังจะรู้ว่าเป็นอย่างไร แต่น้องแตงโมท่อนล่างช่วงขาจะขาวไม่มีร่องรอยแช่น้ำถึง 2 วันเพราะขาเนียนมากเหมือนเพิ่งเสียชีวิตใหม่ๆ แต่ท่อนบนบริเวณใบหน้าจะเละ หน้าอกบอบช้ำ หากคนจมน้ำจริงๆ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จะมีสภาพคล้ายกันหมดทั้งร่างกาย อีกทั้งกรณีเชือกที่พบเป็นของทีมมูลนิธิอาสาสมัครจริงเอาไว้กู้ภัยช่วยเหลือคดีคนจมน้ำเสียชีวิตเพราะป้องกันร่างลอยตามกระแสน้ำ


โดยตนมาให้ปากคำดีเอสไอเป็นครั้งแรก มีภาพประกอบจึงมีความแม่นยำและจำได้ รวมทั้งคนบนเรือเสี่ยคนหนึ่งจำได้ว่ามีลูกน้อง 3 คนที่พบร่างน้องแตงโมแต่การช่วยเหลืออาจผิดลักษณะเพราะห้ามแตะร่าง เพราะอาจมีดีเอ็นเอปนเปื้อน จริงแล้วต้องแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ ส่วนตอนตำรวจทำคดีไม่เคยเรียกตนสอบปากคำ แต่เคยคุยโทรศัพท์กับอดีต ผบช.ภ.1 เป็นการสอบถามในสิ่งที่ตนพูดในสิ่งที่เห็นเท่านั้น สำหรับบาดแผลโคนขาขวาต้องเป็นมีดลักษณะมีรอยหยักเพราะหนังมีรอยยุ่ย ไม่ใช่มีดปกติแน่นอน นอกจากนี้ ดีเอสไอได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ทีมมูลนิธิอาสาสมัครที่เจอศพน้องแตงโม เพื่อจะเรียกมาสอบในประเด็นต่างๆ รวมถึงกรณีใครเป็นคนให้เปลี่ยนไม่ต้องส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ให้ส่งไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ


พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า จากการให้ข้อมูลของไทด์ เป็นการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการประกอบสำนวนการสืบสวนขณะวันนี้ทางคณะสืบสวนของ DSI ชุดเดิมที่ทำร่วมกับ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำการส่งสำนวนสืบสวนเดิมที่ทำไว้ ให้กับคณะพนักงานสืบสวนชุดใหม่ โดยระหว่างนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง เพื่อนำมาประกอบในสำนวนการพิจารณา


นอกจากนี้ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. ทาง DSI จะลงเรือตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทั้งหมด 8 จุด รวมถึงจุดขึ้นฝั่งบางจุดที่มีการตั้งข้อสงสัย โดยจะใช้เรือ 5 ลำ ในการลงตรวจสอบ และใช้เครื่องโซน่า หรือเครื่องสแกนใต้น้ำ ของกรมชลประทาน เพื่อนำมาประมวลผล และเพื่อพิจารณาว่าจะมีการเรียกใครมาสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งเสี่ยสมพงษ์คนที่พบศพแตงโมเป็นคนแรก และอลิส ซึ่งอ้างว่าเป็นคนถ่ายคลิปตอนที่อยู่บนบกในช่วงเวลา 22.00 น. ในวันเกิดเหตุ โดยจะเข้าไปสอบถามชาวบ้านหรือประชาชนที่อยู่ใกล้กับจุดที่น่าสงสัยอีกด้วย ส่วนประเด็นเรือขนทรายที่ไทด์ ออกมาเปิดเผยว่าเป็นข้อมูลใหม่นั้น DSI ขอเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ในสำนวนก่อน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat