ร่นเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน เข้มห้ามคนไทยข้ามไปเล่นการพนัน
ร่นเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน เข้มห้ามคนไทยข้ามไปเล่นการพนัน

กองกำลังบูรพาปรับเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ทำให้มีชาวกัมพูชาตกค้างอยู่ฝั่งไทยจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็วางแนวทางเข้ม ห้ามคนไทยข้ามไปเล่นการพนัน คนกัมพูชาหากข้ามมาทำงานหรือซื้อสินค้าต้องมีใบผ่านแดน และห้ามรถบรรทุกสินค้า 6 ล้อขึ้นไปผ่านเข้าออก เว้นที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา
(7 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีหนังสือประกาศ เรื่องควบคุมการเปิด - ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ระบุว่า
“ตามที่ปรากฏว่าในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติขึ้นตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา โดยพลเรือนและกำลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ข้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหลายครั้งอย่างต่อเนื่องและแสดงท่าทีที่พยายามให้เกิดความเข้าใจว่าพื้นที่ที่ตนรุกล้ำเข้ามานั้นเป็นอธิปไตยของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงเคารพธงชาติ การติดอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ทั้งที่ชัดเจนว่าดินแดนที่รุกล้ำเข้ามานั้นเป็นอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยโดยสมบูรณ์
ซึ่งกองทัพบกได้สั่งการให้กำลังพลเข้าระงับเหตุโดยการเจรจาขี้แจงเหตุผลให้ทราบและผลักดันให้บุคคลดังกล่าวออกไปเสียให้พ้นจากราชอาณาจักรไทยตามหลักสันติวิธีและด้วยความอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม แต่พลเรือนและกำลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชายังคงพยายามที่จะรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และแสดงท่าทียั่วยุโดยไม่หยุดยั้งและอย่างเปิดเผย ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และต่อประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน
จนกระทั่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กองทัพบกต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการผลักดันผู้รุกรานให้พ้นไปเสียจากราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะที่บริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ผลประโยชน์ของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนที่ไม่อาจยอมรับได้
แม้รัฐบาลไทยและกองทัพบกจะได้ใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดในการระงับยับยั้งความตึงเครียดตามแนวชายแดนโดยใช้กลไกที่มีการตกลงกันไว้กับกัมพูชา แต่ความพยายามดังกล่าวกลับไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝ่ายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏด้วยว่ากัมพูชาได้เสริมกำลังพลและอาวุธและยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา อีกเป็นจำนวนมาก
รวมทั้งมีการจัดทำที่มั่นสำหรับวางกำลังทลังทหารอันแสดงให้เห็นถึงความไม่ร่วมมือกับประเทศไทยที่มุ่งหมายจะระงับความตึงเครียดดังกล่าวโดยสันติและเป็นพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2519 (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia, 24 February 1976) อันเป็นหลักการพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของทุกประเทศในอาเซียน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชายังคงมีท่าทียั่วยุให้เกิดความตึงเครียด และการเสริมกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์แสดงให้เห็นความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะใช้กำลัง
เช่นนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่ออธิปไตย ความมั่นคงของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย ตลอดจนกระทบต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชาที่อยู่อาศัยร่วมกันอย่างสันติตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา มาช้านานอย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงยึดมั่นหลักการอยู่ด้วยกันอย่างสันติ และแสวงหาหนทางระงับยับยั้งความตึงเครียดด้วยการเจรจากันด้วยเหตุผล ภายใต้หลักการที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยและกัมพูชาไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรจากความตึงเครียดนั้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นสภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้จัดการประชุม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 และมอบหมายให้กองทัพบกดำเนินการควบคุมการเปิด - ปิดจุดผ่านแดนทุกประเทตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมทั้งมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการที่กองทัพบกกำหนดโดยเคร่งครัด
เพื่อให้ดำเนินการเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมายจากสภาความมั่นคงแห่งชาติดังกล่าวกองทัพบกจึงกำหนดมาตรการควบคุมการเปิด - ปิดจุดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ให้กองทัพภาคที่ 1 โดยผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และกองทัพภาคที่ 2 โดยผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจกำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่จำเป็นและเหมาะสม ในการผ่านแดนบริเวณจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ในส่วนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการค้าขายและความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นเพื่อปกป้องอธิบไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทยและการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย ให้มีอำนาจกำหนดให้เปิดหรือปิดจุดผ่านแดนแห่งใดแห่งหนึ่งหรือทุกแห่งตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาใด ๆ ตามที่เหมาะสมก็ได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2568 พล.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางการไทยโดย พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา (ผบ.กกล.บูรพา) ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรฯจุดผ่อนปรนการค้าฯในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งกองกำลังบูรพาในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย - กัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้วได้พิจารณาถึงผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยและกัมพูชา ไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรจากความตึงเครียดจากสถานการณ์ดังกล่าว
อีกทั้งได้ดำเนินการตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มอบหมายให้กองทัพบกดำเนินการควบคุมการเปิด - ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จึงกำหนดมาตรการดำเนินการในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสระแก้ว ดังนี้
1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ปรับเวลาเปิด-ปิด จากเดิมที่ปฏิบัติตามปกติของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เวลา 06.00 น. -22.00 น. เป็น 08.00 น. -16.00 น. , ชาวไทยที่ไปเล่นการพนันและไปท่องเที่ยวห้ามออกประเทศ , ชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขาย สามารถผ่านเข้า - ออกได้ โดยมีหนังสือเดินทางหรือ Border pass เท่านั้น และให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วพิจารณาหนังสือเดินทางหรือ Border pass จาก 14 วัน เหลือ 7 วัน , การส่งผู้ป่วยด้านมนุษยธรรม ให้ผ่านเข้า - ออกได้โดยพิจารณาจาก สำนักงานประสานงานชายแดนไทย - กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการทัพภาค 1เป็นผู้อนุมัติเท่านั้น , สำหรับชาวไทยที่ไปทำงานหรือค้าขายในกัมพูชา สามารถออกไปได้ โดยให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วพิจารณาหนังสือเดินทางหรือ Border pass จาก 14 วัน เหลือ 7 วัน และ ห้ามรถบรรทุกสินค้าชนาค 6 ล้อ ขึ้นไปผ่าน ให้ใช้การผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เท่านั้น
2. จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (หนองเอี่ยน - สตึงบท) อำเภออรัญประเทศ ปรับเวลาเปิด-ปิด จากเดิมที่ปฏิบัติปกติของ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เวลา 06.00 – 18.00 น. เป็น 08.00 – 16.00 น. , รถบรรทุกสินค้าขนาด 6 ล้อขึ้นไป ให้ไปใช้การผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เท่านั้น
3. จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด ปรับเวลาเปิด-ปิด จากเดิมที่ปฏิบัติปกติของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เวลา 06.00 น. – 18.00 น. เป็น 08.00 น. -16.00 น. , ชาวไทยที่ไปเล่นการพนันและไปท่องเที่ยวห้ามออกประเทศ , ชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขาย สามารถผ่านเข้า - ออกได้ โดยมีหนังสือเดินทางหรือ Border pass เท่านั้น และให้ ตรวจคนเข้าเมืองสระแก้วพิจารณาหนังสือเดินทางหรือ Border pass จาก 14 วัน เหลือ 7 วัน , การส่งป่วยด้านมนุษยธรรม ให้ผ่านเข้า-ออกได้โดยพิจารณาจาก สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการทัพภาค 1 เป็นผู้อนุมัติเท่านั้น , สำหรับชาวไทยที่ไปทำงางานหรือค้าขายในกัมพูชา สามารถออกไปได้ โดยให้ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว พิจารณาหนังสือเดินทางหรือ Border pass จาก 14 วัน เหลือ 7 วัน , ห้ามรถบรรทุกสินค้าขนาด 6 ล้อขึ้นไปผ่านเข้าออก และ ให้ไปใช้การผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เท่านั้น
4.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา ปรับเวลาเปิด-ปิด เป็น 08.00 -12.00 น. , เข้าออกผ่านแดนตามปกติ เน้นคัดกรองคนผ่านเข้า - ออก สามารถอนุญาต/ไม่อนุญาตผ่านแดนตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ , ห้ามรถบรรทุกสินค้าขนาด 6 ล้อขึ้นไปผ่าน ให้ไปใช้การผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เท่านั้น
5.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ อำเภออรัญประเทศ ปรับเวลาเปิด-ปิด เป็น 08.00 น.-12.00 น. , เข้าออกผ่านแดนตามปกติ เน้นคัดกรองคนผ่านเข้า - ออก สามารถอนุญาต/ไม่อนุญาต ผ่านแดนตามดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ , ห้ามรถบรรทุกสินค้าขนาด 6 ล้อขึ้นไปผ่าน ให้ไปใช้การผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา เท่านั้น
ทั้งนี้ ขอให้ยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงจากกองกำลังบูรพา และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบด้วย
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด ทำให้มีคนชาวกัมพูชา ต่างพากันอพยพกลับตั้งแต่ช่วงเวลา -14.00 ถึง 15.00 น.ที่ผ่านมา และมีการซื้ออาหารแห้ง น้ำดื่มกลับไปยังฝั่งกัมพูชาอีกด้วย และในตอนนี้ก็มีชาวกัมพูชาตกค้างอีกจำนวนมาก
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศยช. จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘
