ผู้เสียชีวิต 'อาคารสตง.ถล่ม' ล่าสุดพบแล้ว 12 ราย

31 มี.ค.68 เข้าสู่วันที่ 3 ของเหตุการณ์อาคารถล่ม เป็นอาคาร สตง. 34 ชั้น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง นับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2568 ล่าสุดตัวเลขอัพเดท ช่วงเวลา 8:00 น ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ประสบเหตุ 97 คน เสียชีวิต 12 คน ชาย 8 คน หญิง 3 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม ผู้ที่ติดอยู่ในตึก 76 คน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งปฏิบัติ การ ช่วยเหลือและค้นหาคนที่อยู่ในอาคาร โดย ช่วงเช้าได้มีการใช้รถกระเช้านำขึ้นไป ค้นหาบริเวณโซน e ซึ่งอยู่บนยอดอาคารที่พังลงมา

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยครบ 72 ชม.การค้นหา กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เดินหน้าค้นหาต่อหลังจากนี้ จากการหารือผู้เชี่ยวชาญ ยังมีโอกาสพบผู้รอดชีวิต เน้นโซนบีและซี ลิฟท์และบันไดหนีไฟ รับมีอุปสรรคการกำหนดจุดที่มีซากทับถม/ กทม.ออกคำสั่งให้ตรวจสอบอาคาร 12,000 อาคาร

เวลา 10.00 น.ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร จากเหตุตึกถล่มย่านจตุจักรในเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยสถานการณ์ล่าสุดว่า วันนี้ ครบ72 ชม. ของการก่อนกู้ภัย ยังคงจะเดินหน้าต่อ เพราะยังมีโอกาสที่จะเจอผู้รอดชีวิต หลังการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านกู้ภัย มีนานาชาติมาร่วมด้วย ว่าจะไม่ยกเลิกการค้นหา ขณะที่สภาพอากาศตอนนี้มีฝนตก อากาศไม่ร้อน จะเป็นประโยบน์ต่อผู้รอดชีวิตในอาคาร ตอนนี้หน้างานทั้งทีมงานและอุปกรณ์มีความพร้อม

ส่วนการค้นหาจากนี้ จะมุ่งไปที่โซนบีและซี ซึ่งเป็นโซนที่มีลิฟท์ และบันไดหนีไฟ จากการสอบถามผู้ที่รอดหนีออกมาจากบริเวณนี้ อาจมีโอกาสพบผู้รอดชีวิตอยู่ เพราะบริเวณจุดนี้มีลักษณะเป็นปล่องอาจช่วยค้ำสิ่งที่จะทับลงมาได้ แต่ก็จะมีข้อจำกัดในการกำหนดจุดของผู้รอดชีวิต บริเวณซากทับถมเนื่องจากมองไม่เห็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยสแกน และใช้เจ้าหน้าที่

ส่วนกรณีที่มีการพูดถึงการกู้ภัยที่เป็นไปด้วยความล่าช้านั้น ผู้ว่าชี้แจงว่าการทำงานในสถานการณ์ดังกล่าวมีความละเอียดอ่อน จึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและเป็นมาตรฐานสากล

ส่วนการที่มีบุคคลเข้าไปเพื่อเอาเอกสารออกมาถือว่าผิดกฎหมายเนื่องจากยังเป็นพื้นที่ประกาศห้ามเข้าออกในส่วนนี้ได้แจ้งความไว้แล้ว

กรณีที่มีผู้ที่อ้างว่าเป็นญาติของผู้ที่ติดอยู่ภายในตึกในส่วนนี้ก็คงจะต้องมีการคัดแยก เอาเฉพาะข้อเท็จจริง มีทางเขตจตุจักรจะคอยดูแลผู้ที่เป็นญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบ

การตรวจสอบอาคารจากการสั่งให้หยุดการใช้งาน 2 อาคาร ได้รับผลกระทบเกือบ 2,000 คนซึ่งกทม.ได้จัดที่อยู่อาศัย มีคนเข้ามา 172 ราย โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ในการตรวจอาคารจะไล่ตรวจจากที่มีความเสียหายรุนแรงก่อน ส่วนอาคารที่เป็นราชการจะมีกรมโยธาฯ เข้าไปตรวจ 

โดยมีรายงานว่าที่ศูนย์ราชการอาคารทรุดตัวก็จะต้องเข้าไปตรวจ และได้ออกคำสั่งให้ตรวจสอบอาคารไปประมาณ 12,000 อาคาร ในอาคารที่ความเสียหายไม่รุนแรงต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคารเป็นผู้ตรวจสอบก่อน เนื่องจากแต่ละอาคารจะต้องมีผู้ตรวจสอบอาคารทุกปี เพื่อแบ่งเบาภาระ อาคารที่มีความเสียหายรุนแรงจึงจะมีการสั่งหยุดการใช้งาน

ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครคลี่คลายเกือบ 100% ยกเว้นบริเวณที่เกิดเหตุบนถนนกำแพงเพชร 2 ที่ยังปิดการจราจร