ข่าวเวิร์คพอยท์เช็กที่นี่เงื่อนไขการสมัคร-ใช้สิทธิ “คนละครึ่ง พลัส” ทั้งของประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า ก่อนเริ่มต้นใช้สิทธิ 29 ต.ค. - สิ้นปีนี้
(7 ต.ค. 68) รัฐบาลเปิดเงื่อนไขการสมัครและใช้สิทธิโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่งพลัส.com ดังต่อไปนี้
สำหรับประชาชน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- มีบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการคนละครึ่ง เฟส 1-5
ขั้นตอนการลงทะเบียน
- ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง และเปิดใช้บริการ G Wallet
- กดลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่ วันที่ 20 ต.ค. - 26 ต.ค. 68 เวลา 06:00 - 22:00 น.
- ผู้ที่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
- ผู้ที่ไม่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่าน SMS และแอปฯ เป๋าตัง
- ผู้ได้รับสิทธิเข้าแอปฯเป๋าตัง และกดแบนเนอร์โครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อเริ่มใช้จ่าย วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 23:00 น.
สิทธิประโยชน์
- 2,400 บาท/คน สำหรับผู้ยื่นแบบภาษี
- 2,000 บาท/คน สำหรับผู้ไม่ยื่นแบบภาษี
- ใช้สิทธิได้ 200 บาท/คน/วัน
เงื่อนไขการใช้สิทธิ
- เริ่มใช้สิทธิ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68
- ใช้สิทธิผ่านแอป เป๋าตัง โดยชำระเงินผ่าน G-Wallet
- ใช้สิทธิที่ร้านค้า ระหว่าง 06.00 - 23.00 น.
- ใช้สิทธิฟู้ดเดลิเวอรี ระหว่าง 06.00 - 21.00 น. (เริ่ม 7 พ.ย. 68)
!!ต้องใช้สิทธิครั้งแรก ก่อน 23.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 68 ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดสิทธิ!!
ประเภทสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ: อาหารและเครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการขนส่งสาธารณะ, บริการนวด, สปา, ทำเล็บ ทำผม
ประเภทสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการ: สลากกินแบ่งรัฐบาล, เครื่องดื่มแอลกอฮล์, ผลิตภัณฑ์ยาสูบ, บัตรกำนัล, บัตรเงินสด, บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้า หรือค่าบริการล่วงหน้า
สำหรับผู้ประกอบการ
คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
1. เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
- ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
- ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)
ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
2. เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
4. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
5. เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
6. ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการคนละครึ่ง เฟส 1-5
ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
ร้านค้ากลุ่มเดิมที่ผ่านเกณฑ์ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แต่ต้องกดยืนยันเข้าร่วมโครงการในแอป ถุงเงิน
- ร้านค้าถุงเงิน ที่เคยร่วม คนละครึ่ง เฟส 5
- ร้านค้าธงฟ้าฯ ของบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสหกรณ์ ที่ผ่านเกณฑ์
- ร้านค้าโครงการกรุงเทพแผงลอย
ร้านค้ากลุ่มใหม่ ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ
- สมัครร้านค้าถุงเงิน ที่ www.ถุงเงินกรุงไทย.com (ต้องมีบัญชีกรุงไทย)
- ดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.คนละครึ่งพลัส.com
- กรอกใบสมัคร เตรียมบัตรประชาชน และรูปถ่ายร้านค้า-รูปเจ้าของร้านให้เจ้าหน้าที่
- ยื่นใบสมัคร ณ จุดบริการ หรือธนาคารกรุงไทย
- เมื่อได้รับอนุมัติร้าน จะมีเมนู คนละครึ่ง พลัส ในหน้าจอแอป ถุงเงิน
เงื่อนไขเฉพาะสำหรับร้านค้ารายใหม่ที่เป็นบุคคลธรรมดา
- ร้านค้าถุงเงินประสงค์เข้าร่วมโครงการจะต้องได้รับ การยืนยันประกอบกิจการจริง จากเจ้าหน้าที่รัฐของกระทรวงมหาดไทย
- นำแบบฟอร์มสมัครร้านค้า สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ยื่นเอกสารที่จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
เงื่อนไขเฉพาะสำหรับร้านค้ารายใหม่ที่เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก ธุรกิจเฉพาะ(ขนส่งสาธารณะ, ร้านนวด, สปา)
- ร้านค้าถุงเงินที่ต้องตรวจสอบใบอนุญาตหรือตรวจข้อมูลกับหน่วยงานรัฐ ประสงค์เข้าร่วมโครงการ
- นำแบบฟอร์มสมัครร้านค้า สำหรับเจ้าหน้าที่กรุงไทย ยื่น เอกสารที่จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ร้านขายอาหาร-เครื่องดื่มที่ต้องการร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์ม ฟู้ด เดลิเวอรี ต้องกดสมัครฟู้ดเดลิเวอรีบนแอปถุงเงินก่อน เลือกแพลตฟอร์ม(แอป)ที่จะขายได้ที่แอปถุงเงิน วันที่ 3 พ.ย. 68 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.
สรุปไทม์ไลน์สำหรับผู้ประกอบการ
- สมัคร-ยืนยันสิทธิร่วมโครงการ: 15 ต.ค. - 19 ธ.ค. 68
- เริ่มต้นรับสิทธิวันแรก: 29 ต.ค. 68
- ลงทะบียน ฟู้ด เดลิเวอรี: 3 พ.ย. 68
- รับสิทธิผ่านแพลตฟอร์ม ฟู้ด เดลิเวอรี ที่ร่วมโครงการ: 7 พ.ย. 68
- สิ้นสุดโครงการ: 31 ธ.ค. 68
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม-รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.คนละครึ่งพลัส.com
แท็ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
