
ยึดโดรนปริศนา 2 ลำในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่เร่งหาที่มา เป็นโดรนจากกัมพูชามาสอดแนม หรือเป็นโดรนคนไทยที่คึกคะนองท้าทายประกาศของสำนักการบินพลเรือน
(2 ส.ค. 68) นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายเทพพนม สมเสมอ นายอำเภอละหานทราย, พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผู้กำกับการ สภ.ละหานทราย, พ.ต.ท.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ละหานทราย และเจ้าหน้าที่อีกหลายฝ่าย ได้ร่วมกันตรวจสอบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน จำนวน 2 ลำ ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอละหานทราย สามารถยึดได้ในพื้นที่ อ.ละหานทราย
โดยลำแรกพบตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลหนองแวง อำเภอละหานทราย เป็นโดรนแบบ 4 ใบพัด มีกล้องสามารถบันทึกภาพได้ แต่ไม่พบการ์ดอยู่ในตัวโดรนแล้ว อีกลำเจ้าหน้าที่พบขณะออกตรวจลาดตระเวน พบบินป่วนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย ลักษณะเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก สีเขียว บินในระดับไม่สูงมาก เจ้าหน้าที่ไล่ตีจนตกลงมา โดยตอนที่ตกพบไปสถานะยังทำงานอยู่ แต่ลำดังกล่าวไม่มีกล้องบันทึกภาพ แต่จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง ไม่พบคนที่บังคับโดรนตัวดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าเป็นของใครหรือฝ่ายไหน จึงได้ทำการยึดไว้เพื่อให้หน่วยงานด้านความมั่นคงตรวจสอบอีกครั้ง
นายเทพพนม สมเสมอ นายอำเภอละหานทราย กล่าวว่า ภายหลังจากผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ตรวจตราอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่อาจจะเข้ามาบินสอดแนม หรือจับพิกัดเป้าหมาย เพื่อจุดประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด ทางอำเภอละหานทรายก็ได้ให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ออกลาดตระเวนตรวจตราอย่างเข้มข้นทั้งกลางวันกลางคืน รวมถึงได้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบบุคคลแปลกหน้า โดรน หรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กระทั่งพบโดรน 1 ลำตกในพื้นที่ตำบลหนองแวง ส่วนอีกลำบินในระดับที่ไม่สูงมากเจ้าหน้าที่จึงใช้ไม้ตีทำให้ตัวโดรนตกลงพื้น และยึดมาตรวจสอบ หาแหล่งที่มา และเจ้าของโดรน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้านนางนุช ชาวบ้านในหมู่บ้านที่พบโดรน บอกว่า มีชาวบ้านในหมู่บ้านเห็นโดนบินขึ้นอยู่บริเวณป่ายางในหมู่บ้าน จึงได้แจ้งผู้นำชุมชนและฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบ จนสามารถใช้ไม้ตีโดรนจนตกลงกับพื้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเป็นโดรนของใครหรือฝ่ายใด ซึ่งหลังจากนี้ชาวบ้านก็จะช่วยกันสอดส่องเพราะเกรงว่าหากเป็นของฝั่งกัมพูชา จะเข้ามาสอดแนวหรือจับพิกัดในไทย เพื่อก่อเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ออกประกาศด่วน ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 เรื่อง ห้ามบินหรือปล่อยอากาศยานที่ไม่มีนักบิน (โดรน) ทั่วประเทศเนื่องจากสถานะการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2568 ยกเว้นหน่วยงานด้านความมั่นคง
การละเมิดคำสั่งนี้ถือว่า ผิดกฎหมาย และมีโทษตาม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 โทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ





