
ศาลสั่งจำคุก 830 ปี นายหน้าสาวแสบ อ้างเป็นทูตตุ๋นแรงงาน 166 คนไปออสเตรเลีย สูญกว่า 10 ล้าน
ศาลบุรีรัมย์ พิพากษาจำคุกนายหน้าสาวแสบ อ้างตัวเป็นทูต หลอกแรงงาน 166 คนไปทำงานออสเตรเลีย ลงโทษจำคุก 830 ปี - ชดใช้เงินคืนเหยื่อกว่า 10 ล้านบาท เดินหน้าสอบเส้นเงินเอาผิดญาติและแฟนที่ร่วมขบวนการ
(20 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่แรงงานชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ 166 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.พุทไธสง ให้เอาผิด น.ส.ออย (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 28 ปี ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลีย ร่วมกับพ่อซึ่งเป็นอดีตรองนายก อบต.แห่งหนึ่ง รวมทั้ง แม่ , ตา , ยาย , แฟน และอดีตรองปลัด อบต.รวม 7 คน
โดยทั้งหมด หลอกลวงเหยื่อว่าจะพาไปทำงานภาคเกษตรและโรงแรม ที่ประเทศออสเตรเลีย อ้างว่า มีค่าแรงสูงถึงหลักแสนบาท เรียกเก็บค่าดำเนินการจากแรงงานที่หลงเชื่อ รายละ 60,000-120,000 บาท รวมเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท แต่สุดท้ายแรงงานทั้งหมด กลับถูกลอยแพ ไม่ได้ไปทำงานตามที่ น.ส.ออย กล่าวอ้าง
กระทั่งวันที่ 22 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุทไธสง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้จับกุม น.ส.ออย ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 22/2568 ในฐานความผิด “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปทำงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” จากนั้น พนักงานอัยการได้มีการพิจารณาสั่งฟ้อง
ล่าสุดวันนี้ (20 ส.ค.68) ทนายความอาสา จากสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้เสียหาย ก็ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อฟังคำพิพากษาของศาล ขณะที่ น.ส.ออย จำเลยในคดี ก็ถูกเบิกตัวจากเรือนจำบุรีรัมย์ เพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลเช่นกัน
นายดรินทร์ ชาญณรงค์ ทนายอาสาฯ ระบุว่า วันนี้ศาลได้อ่านคำพิพากษาต่อหน้าจำเลยและผู้เสียหาย พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุกจำเลยทุกกระทงความผิด 166 กระทง เป็นเวลา 830 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือคงจำคุก 332 ปี 996 เดือน อย่างไรก็ตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา ลงโทษได้สูงสุดไม่เกิน 20 ปี จึงคงเหลือจำคุก 20 ปี พร้อมให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย อีก 10,790,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินบางส่วนของจำเลยในคดีนี้ ก็ได้มีการอายัดไว้แล้ว
ส่วนผู้ที่ผู้เสียหาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า มีผู้ร่วมในการกระทำผิดอีก 6 คน แต่ยังให้การปฏิเสธนั้น ทางอัยการได้มีคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน ให้สอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ที่มีความเชื่อมโยงกับจำเลยในคดี หากเส้นเงินและพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใด และพบมีส่วนร่วมในการกระทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินคดี
ซึ่งในส่วนนี้ ทางทนายความก็จะติดตามเรื่องกับพนักงานสอบสวน และสำนักงานอัยการ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานยื่นฟ้องเพิ่ม กับผู้ที่ร่วมในการกระทำผิดในคดีนี้ทุกราย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน