เว็บไซต์ข่าวที่หลากหลาย เข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน | เวิร์คพอยท์นิวส์ 23

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
CIB เตรียมตรวจสอบวัดทั่วประเทศ 40,000 แห่ง จัดเก็บข้อมูลแหล่งรับรายได้ เพื่อทำ Big Data คัดกรองพฤติกรรมต้องสงสัย ภายใน 7 วัน

CIB เตรียมตรวจสอบวัดทั่วประเทศ 40,000 แห่ง จัดเก็บข้อมูลแหล่งรับรายได้ เพื่อทำ Big Data คัดกรองพฤติกรรมต้องสงสัย ภายใน 7 วัน

อาชญากรรม 6 ส.ค. 68 1121 | Tum1

CIB เตรียมตรวจสอบวัดทั่วประเทศ 40,000 แห่ง จัดเก็บข้อมูลแหล่งรับรายได้ เพื่อทำ Big Data คัดกรองพฤติกรรมต้องสงสัย ภายใน 7 วัน ส่วนกรณี หมอดูชื่อดังที่ใช้ชื่อวัดรับบริจาค ตำรวจเร่งตรวจสอบ อาจเข้าข่ายฉ้อโกง

(6 ส.ค.68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการตรวจสอบการทุจริตในแวดวงพระพุทธศาสนา โดยปฎิบัติการครั้งนี้ได้นำฐานข้อมูลจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อนำเข้าระบบ Big Data ของตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อประมวลผลและตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยของพระสงฆ์ทั่วประเทศ


จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า มีพระภิกษุรวมทั้งหมด 510 รูป ที่ถูกตั้งเป้าหมายในการตรวจสอบ โดยในจำนวนนี้ ลาสิกขาไปแล้วกว่า 300 ราย และยังคงมีสมณเพศอยู่ราว 153 รูป และสำหรับพระที่ลาสิกขาแล้ว 28 ราย ปรากฏว่า เข้าข่ายกระทำความผิด และสามารถจับกุมได้แล้วถึง 26 ราย ส่วนพระที่ยังครองสมณเพศอยู่ ตรวจสอบพบ 153 รูป และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ 137 ราย ขณะที่พระที่เหลือบางส่วนอยู่ระหว่างติดตามตัว 



ในส่วนของพระ 4 รูป ที่ยังไม่ได้ลาสิกขา แต่มีหมายจับหรือพฤติกรรมเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีนั้น เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าพบเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ โดยได้รับความร่วมมือจากพระสังฆาธิการ ที่มาชี้แจงว่า ตามหลักพระธรรมวินัย พระภิกษุที่ยังครองสมณเพศ จะไม่สามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จึงแนะนำให้ลาสิกขา เพื่อไปต่อสู้คดีในฐานะฆราวาส และหากพ้นผิดก็สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ซึ่งพระทั้ง 4 รูปก็ยินยอมลาสิกขาในที่สุด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :


ขณะเดียวกัน ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่จากกรมการศาสนา ดำเนินการเข้าตรวจสอบวัดทั่วประเทศกว่า 40,000 แห่ง โดยจะรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งพระสงฆ์ประจำวัด บัญชีวัด มูลนิธิในวัด ไวยาวัจกร คณะกรรมการวัด ไปจนถึงระบบบริหารจัดการ และตู้บริจาคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดทั้งหมด 

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำเข้าสู่ระบบ Big Data ของตำรวจสอบสวนกลาง โดยคาดว่า ภายในระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-12 สิงหาคมนี้ เพื่อสร้างฐานข้อมูลพระสงฆ์และระบบตรวจสอบแบบมีประสิทธิภาพ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในวงการพระพุทธศาสนา เพราะการมีระบบตรวจสอบที่ดี จะทำให้การทุจริตทำได้ยากขึ้น 



ส่วนกรณี "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" หมอดูชื่อดัง ใช้ชื่อวัดพระบาทน้ำพุเปิดรับบริจาคเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเผยถึงกรณีที่มีประชาชนเข้าร้องเรียนผ่านกองกำกับการ 1 กองปราบปรามว่า หมอดูรายหนึ่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอบี” มีการใช้ชื่อ “วัดพระบาทน้ำพุ” เปิดรับบริจาคเงินโดยไม่มีความชัดเจน ว่าเงินนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ใด โดยอ้างว่า มีการนำเงินบางส่วนไปให้เจ้าอาวาสด้วย 

ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบว่า มีการนำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และหากให้จริง เจ้าอาวาสได้นำไปใช้อย่างไร ซึ่งหากเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

underline
Thailand Web Stat