เว็บไซต์ข่าวที่หลากหลาย เข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน | เวิร์คพอยท์นิวส์ 23

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
ปิดโรงเรียนลอยแพเด็กอนุบาล ครูสาวเช่าห้องแถวสอนเอง

ปิดโรงเรียนลอยแพเด็กอนุบาล ครูสาวเช่าห้องแถวสอนเอง

อาชญากรรม 8 ส.ค. 68 1073 | ข่าวเวิร์คพอยท์

โรงเรียนอนุบาลเอกชนหยุดกิจการกระทันหัน พ่อแม่กังวลลูกถูกลอยแพทั้งๆ ที่งยังไม่จบเทอม ครูสาวกัดฟันลงขันกับเพื่อเช่าห้องแถวสอนเด็กเองไปก่อน - วงในแฉสาเหตุบริหารงานล้มเหลว ไม่ชอบมาพากล

(8 ส.ค. 68) ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร ได้รับเรื่องร้องเรียน โรงเรียนอนุบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร ประกาศปิดกิจการกระทันหัน ทำให้นักเรียนอนุบาลของโรงเรียนนี้ถูกลอยแพ ครูก็ต้องตกงาน


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ครูฝน อายุ 44 ปี คุณครูของโรงเรียนดังกล่าว ออกมาเช่าห้องแถวอยู่ในตลาดมาบอมฤต ดัดแปลงภายในห้องแถวเป็นห้องเรียนชั่วคราว เพื่อดูแลเด็กนักเรียนของตนเอง ภายในห้องแถวดังกล่าวมีอุปกรณ์การเรียนของเด็กๆ วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ และนอกจากครูฝนแล้วก็มี ครูกรรณิการ์ และหญิงสาวอีกคนช่วยกันดูแลเด็กๆ


ครูกรรณิการ์ อดีตครูผู้สอนอยู่โรงเรียนอนุบาลที่ปิดกิจการดังกล่าว เปิดเผยถึงมูลเหตุและถูกครูผู้ปกครอง ผู้เสียหายนำเรื่องการบริหารภายในร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของจังหวัดชุมพร เพื่อให้ตรวจสอบหลายครั้ง พบว่ามีมูลความจริงจนนำไปสู่การประกาศปิดโรงเรียนฯ เมื่อช่วงดือนกรกฎาคม 2568 นี้ว่า ปมประเด็นปัญหาอาทิเช่น หนังสือเรียนมีไม่ครบทุกวิชา คุณครูต้องจัดหาซื้อสื่อการสอนมาเอง อาหารกลางวันไม่เพียงพอ ห้องเรียนมีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ บุคลากรทางการศึกษาบางรายไม่มีประสบการณ์ วุฒิการศึกษาต่ำกว่ากำหนด รายชื่อเด็กมีไม่ตรงกับตามความเป็นจริงเช่น เด็กย้ายออกไปแล้วแต่ไม่ย้ายชื่อเด็กออกเท่ากับว่ากินเงินอุดหนุนรายหัวเด็ก



ส่วนคุณครูที่มีการร้องเรียนปัญหาไปนั้นคือ การหักเงินเดือน มาสายคิดนาทีละ 50 บาท บางครั้งหักเงินดือนชี้แจงบ้างไม่ชี้แจงบ้าง และมีปัญหาเรื่องการลาซึ่งเอกสารการหักเงินตนมีเอกสารหลักฐานครบ ครูผู้สอนมีความเดือดร้อนกระทบถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนบางเดือนเหลือเงินแค่ 2000-3000 บาท บางเดือนก็ไม่เหลือเงินเลย ซึ่งมีการพูดคุยกันภายในกับผู้บริหารแล้ว แต่เมื่อคุยไม่ได้ มีคำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจกันมากเกินไป จึงเกิดการร้องเรียนขึ้น


สำหรับโรงเรียนอนุบาลเอกชนดังกล่าวเปิดการสอนมาเกือบ 20 ปี แต่มาเกิดปัญหากับผู้บริหารชุดล่าสุด มีคุณครูประมาณ 14-15 คน นักเรียนมีตัวตนจริงประมาณ 50-60 คน แต่เช็คในระบบมีนับ 100 คน ซึ่งไม่ตรงกัน น.ส.กรรณิการ์ฯ เปิดเผยอีกว่า ตนอดทนจนถึงที่สุดเพื่อเด็กๆ จนไม่ไหวกับการถูกเอารัดเอาเปรียบ การบริหารของโรงเรียนจึงจำเป็นต้องลาออกก่อนโรงเรียนถูกสั่งปิดไม่นาน”  


ด้าน ครูฝน เปิดเผยว่า สอนอยู่ที่โรงเรียนมานานประมาณ 3 ปี ปัจจุบันยังไม่ได้ลาออก แต่มีความรู้สึกว่าผู้บริหารเอารัดเอาเปรียบครูที่โรงเรียนอย่างที่เจอกับตนเองคือสื่อการเรียนการสอนให้ครูเป็นคนออกเองเช่น โรงเรียนเก็บเงินเด็ก 500 บาทแต่หนังสือที่ได้เพียงแค่ 100 บาท ที่เหลือให้คุณครูจัดการหาให้เด็กกันเอง ผู้บริหารนำพ่อแม่ญาติพี่น้องเข้ามาในการทำงาน ทำให้คุณครูรู้สึกอึดอัดใจ แต่ด้วยความเรามีความรับผิดชอบและรับปากกับผู้ปกครองว่าจะดูแลลูกหลานเขา


ส่วนความอึดอัดในใจอีกเรื่องคือทางโรงเรียนเก็บค่าเทอมเด็กบอกว่ามีห้องแอร์ แต่สุดท้ายไม่มีห้องแอร์ตามที่แจ้ง อีกทั้งห้องน้ำมีสภาพเก่าทรุดโทรมคุณครูต้องซ่อมแซมออกค่าใช้จ่ายกันเอง หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมาทำให้มีการเปลี่ยนแปลงภายใน 


หลังจากนั้นผู้บริหารกับพวกรวม 5 คน มาด่าครูที่โรงเรียนจนคุณครูขึ้นโรงพักแจ้งความไว้ ทำให้ตนเองไม่กล้าอยู่ที่โรงเรียนจึงนำเด็กมาสอนที่ห้องเช่าดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่ไกลมากนัก ตนมองว่าความปลอดภัยของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ แต่ห้องเช่าค่อนข้างแคบมีความยากลำบากเล็กน้อย 


ตอนนี้ที่โรงเรียนไม่มีการเรียนการสอนแล้วเพราะคุณครูบางส่วนยินยอมลาออกไปหมด เพราะโรงเรียนปิดกิจการ เหลือตนเองดูแลเด็กที่ผู้ปกครองยืนยันที่จะอยู่โรงเรียนโดยที่ย้ายมาอยู่ห้องเช่าจำนวน 4 คนและคุณครูที่คอยจัดทำเอกสาร ครูที่ลาออกไปทราบว่าหางานทำใหม่กัน แต่ที่ยังไม่ได้งานก็มี  


ครูฝน เปิดเผยอีกว่า ขณะเดียวกันผู้ปกครองถามหานมโรงเรียนและทวงถามถึงเงินค่าเทอม ค่าหนังสือที่จ่ายไปหมดแล้วจะทำอย่างไร จะได้คืนไหม ตอนนี้ผู้ปกครองต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองในการหาโรงเรียนใหม่บางรายก็ไม่มีที่เรียน ซึ่งผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนกันหลายคน


ขณะที่ น.ส.กาญจนา อายุ 37 ปี ผู้ปกครองรายหนึ่ง เล่าว่า มีลูกเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวมานาน 3 ปีแล้ว อยู่ชั้นอนุบาล1 กับประถม 1 หลังจากมีปัญหาโรงเรียนปิดตัวลงโรงเรียนไม่ได้ประสานหาที่เรียนใหม่ให้ และค่าเทอมค่าใช้จ่ายที่จายไปแล้วไปได้คืน ผู้ปกครองเริ่มต้นใหม่หมดบางโรงเรียนเรียนเก็บคะแนนกันแล้ว ทางโรงเรียนที่ปิดกิจการก็เอาข้อมูลเด็กไปหมดไม่ได้ให้กลับ ผู้ปกครองบางคนวิ่งเต้นเรื่องย้ายโรงเรียนตอนนี้เกิดความวุ่นวายมาก ทำให้ผู้ปกครองจับกลุ่มคุยกันเรื่องฟ้องร้องแต่ตัดขัดปัญหาค่าใช้จ่ายว่าจ้างจัดตั้งทนายความ มองว่าเกิดความยุ่งยากไหมและเสียเวลาไหมคุ้มหรือไม่กับกับเงินที่เสียไป ซึ่งยังเป็นคำถามกันในกลุ่มผู้ปกครองที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้



ด้านนายพรศักดิ์ อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากโรงเรียนอนุบาลเอกชนปิดกิจการ เล่าว่าลูกชายอายุ 6 ขวบเป็นเด็กพิเศษ การเรียนและมีพัฒนาการเริ่มดีพูดได้ มาเรียนทุกวัน พอโรงเรียนประกาศปิดกะทันหันไม่รู้จะทำอย่างไรค่าเทอมค่าหนังสือก็จ่ายหมดแล้ว ลูกมีสมาธิสั้นย้ายโรงเรียนกลางคันไม่มีใครอยากเอา 


ขณะที่นายบัญชา อายุ 70 ปี มานั่งรอรับนักเรียนอายุ 4 ขวบชั้นอนุบาล 1 ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนบริเวณหน้าห้องเช่าของคุณครูฝน บอกว่า ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีที่ศึกษา รู้สึกสงสารเหลนอย่างมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร พอดีคุณครูฝนแนะนำให้มาเรียนที่นี่(ห้องแถว)โดยลุงบัญชา พูดไปมือก็ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความสงสารเหลน ไม่มีทางออกพาเหลนไปสมัครเรียนก็เต็มหมด เหลนเรียนที่โรงเรียนอนุบาลดังกล่าวตั้งแต่เนอสเซอรี่ ค่าเรียน ค่าหนังสือ และค่าเรียนพิเศษก็จ่ายครบหมดแล้ว มาลอยแพเด็กกะทันหันแบบนี้ก็เสียความรู้สึก”ผู้ปกครองบอกด้วยความรู้สึกเสียใจ


หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนอนุบาลดังกล่าวพบว่าที่ทางเข้าโรงเรียนเป็นถนนลูกรังประมาณ 40-50 เมตร ปากทางบริเวณริมถนนติดตั้งป้ายไวนิลจำนวน 2 แห่ง ใกล้ๆ กันโดยมีข้อความระบุ เรียนผู้ปกครองนักเรียนทุกท่าน โรงเรียนอนุบาล… มีความประสงค์จะเลิกกิจการ ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 / 2568 เป็นต้นไป


แต่จากการตรวจสอบลักษณะภายในโรงเรียน พบว่ามีสภาพรกร้าง หญ้าขึ้นสูง ประตูเหล็กถูกใส่กุญแจล่ามโซ่ล็อคไว้ ดูแล้วขัดกับประกาศที่บอกว่าจะเลิกกิจการในเทอม 2 ของปีการศึกษานี้


Thailand Web Stat