เว็บไซต์ข่าวที่หลากหลาย เข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน | เวิร์คพอยท์นิวส์ 23

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
ตร.ภาค 7 แถลงปิดจ๊อบ แจ้งข้อหาหนัก "รัฐ-เอกชน" 4 กลุ่ม คดีคานปูนถนนพระราม 2 ถล่ม

ตร.ภาค 7 แถลงปิดจ๊อบ แจ้งข้อหาหนัก "รัฐ-เอกชน" 4 กลุ่ม คดีคานปูนถนนพระราม 2 ถล่ม

อาชญากรรม 5 ส.ค. 68 541 | Tum1

ตร.ภาค 7 แถลงปิดจ๊อบ แจ้งข้อหาหนัก "รัฐ-เอกชน" 4 กลุ่ม คดีคานปูนถนนพระราม 2 ถล่ม ส่วนญาติผู้เสียหาย หากยังไม่พอใจการชดเชย ยื่นฟ้องแพ่งเอาผิดได้อีก

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องโถงอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 1 อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ. 7 รับผิดชอบฝ่ายกฎหมายและสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร , พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร แถลงข่าวความคืบหน้าและปิดคดี คานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2 ถล่ม ทำให้มีผู้เสียชิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 29 พ.ย.67 ที่ผ่านมา 


พล.ต.ต.อุทัย รอง ผบช.ภ. 7 ระบุว่า เหตุคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระราม 2 ของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน -บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว ตอน 1 ช่วง กม.21+600 เขตพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หล่นจากที่ติดตั้งลงมา ทำให้มีคนงานเสียชีวิต 6 ราย คนไทย 2 ต่างด้าว 4 มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นคนไทย 4 ราย ต่างด้าว 5 ราย โดยรักษาตัวอยู่ใน รพ.สมุทรสาคร 4 ราย , รักษาที่ รพ.เอกชัย จำนวน 1 ราย , รักษาที่ รพ.วิชัยเวชสมุทรสาคร 1 ราย ผู้บาดเจ็บที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านจำนวน 3 ราย 



เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความเห็นว่า เหตุดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้ว และมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน ต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง ผู้บังคับบัญชาจึงได้เร่งรัด กำชับการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลโดยมีผลสรุป ผลการสอบสวนได้ ได้แยกดำเนินคดีแบ่ง เป็น 4 กลุ่ม คือ 

กลุ่มที่ 1 กลุ่มอาญา บุคคลธรรมดา ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย" และ "เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย" ดำเนินคดีกับ 

  • วิศวกรผู้ควบคุมงานของบริษัท อุดมศักดิ์ เชียงใหม่ จำกัด
  • นายช่างฯผู้ควบคุมงานของกรมทางหลวง 
  • หัวหน้าคนงาน บริษัท พีเอซีไอ คอนสตรัคชั่นจำกัด 


กลุ่มที่ 2 กลุ่มอาญานิติบุคคล บริษัทฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วง ฐาน "เป็นผู้กระทำความผิดในทางอาญา" ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีฐาน "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย" และ "เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย" ดำเนินคดีกับ 

  • บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก  
  • บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง


 

กลุ่มที่ 3 กลุ่มความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงาน (เจ้าหน้าที่ของรัฐ)  ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ต่อไป รวมถึงความผิดฐาน "เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย" ดำเนินคดีกับ 

  • หัวหน้าผู้รับผิดชอบควบคุมโครงการที่เกิดเหตุของ กรมทางหลวง

 

กลุ่มที่ 4 กลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด คือ บริษัทฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วง ฐาน "เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำความผิด" ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยแจ้งข้อหาฐาน "ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบฯ" และ "กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดฯ" ดำเนินคดีกับ 

  • บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก  
  • บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง




 

ในส่วนของญาติผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ หากยังไม่พึงพอใจในการเยียวยาและชดใช้ ก็สามารถฟ้องร้องเอาผิดในคดีทางแพ่งได้ ซึ่งตอนนี้รอการสรุปสำนวน คือคดีทางอาญาต้นทาง ซึ่งได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากส่วนใหญ่พบว่า ย้อนกลับไปดูสำนวนจากเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดและเสียชีวิต และอ้างว่า เป็นความประมาทของผู้ตายก็ทำให้คดีนั้นจบลง 

แต่ในครั้งนี้ถือว่า เป็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีความละเลยและเพิกเฉยในกรณีดังกล่าวไปด้วย ซึ่งได้มีการดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ เพื่อที่จะหาข้อเท็จจริงโดยมีการรวบรวมข้อมูลจากหลายหน่วยงาน ทั้งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการดำเนินการทางด้านวิชาการเป็นหลัก เพื่อที่จะไม่ให้เกิดกรณีการปล่อยประละเลยจนกระทั่งเกิดเหตุน่าสลดใจเช่นนี้อีก - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

underline
Thailand Web Stat