เว็บไซต์ข่าวที่หลากหลาย เข้าใจง่าย เข้าถึงทุกคน | เวิร์คพอยท์นิวส์ 23

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
 ฝากขัง ลูกฆ่าแม่โบกปูนอำพรางศพ เจ้าตัวระบุ พร้อมยอมรับกรรม หากย้อนเวลาได้จะไม่ก่อเหตุ

ฝากขัง ลูกฆ่าแม่โบกปูนอำพรางศพ เจ้าตัวระบุ พร้อมยอมรับกรรม หากย้อนเวลาได้จะไม่ก่อเหตุ

อาชญากรรม 5 ส.ค. 68 740 | Tum1

ฝากขัง ลูกฆ่าแม่โบกปูนอำพรางศพ เจ้าตัวระบุ พร้อมยอมรับกรรม หากย้อนเวลาได้จะไม่ก่อเหตุ ด้านเพื่อนบ้าน รับสงสารเพราะถูกผู้ตายกดดัน-รักลูกผิดวิธี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า ได้ควบคุมตัวนายบอย (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาฆ่าบุพการี(แม่) และซ่อนเร้นอำพรางศพ ไปฝากขังศาลอาญามีนบุรี โดยท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าจะหลบหนี โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายบอย ผู้ต้องหา ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า เป็นคนลงมือฆ่าแม่ด้วยการใช้มือล็อกแล้วรัดคอแม่จนเสียชีวิต ตอนนี้รู้สึกเสีย และอยากขอโทษแม่ พร้อมรับกรรมที่ทำลงไป โดยย้ำว่า ยังรักแม่ หากย้อนเวลาได้จะไม่ก่อเหตุเช่นนี้ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :


ด้านพนักงานสอบสวน ให้ข้อมูลว่า ได้มีการสอบปากคำนายบอย ผู้ต้องหา โดยนายบอย รับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่าแม่จริง แต่ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผยข้อมูล ซึ่งในวันนี้นำตัวนายบอล ไปฝากขังศาลมีนบุรี เพื่อให้ศาลพิจารณาว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ ทั้งนี้ หากศาลมีคำสั่งว่าผู้ต้องหาป่วยจิตเวชจริง ก็จะต้องถูกนำตัวไปรักษา ก่อนจะรับโทษต่อไป



ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ป้าภา (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 68 ปี เพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิต นำอาหาร ขนม และน้ำ เข้าเยี่ยมนายบอย ผู้ต้องหาฆ่าบุพการี ที่ถูกคุมขังอยู่ภายใน สน.ร่มเกล้า โดยป้าภา เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงและสงสารนายบอย แม้ว่าจะเป็นคนฆ่าแม่ก็ตาม แต่ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวของนายบอย ถือว่าสนิทสนมกัน โดยเฉพาะ น.ส.วรณัณ ผู้เสียชีวิต เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพูดคุยและปรึกษาปัญหาครอบครัว เกี่ยวกับการดูแลลูกชาย ซึ่งก็คือนายบอย ผู้ก่อเหตุ ที่ผู้เสียชีวิตมักจะรักลูกผิดวิธีด้วยการบังคับจิตใจ หรือแม้แต่กีดกันไม่ให้มีเพื่อน ไม่ให้มีแฟน ไม่ให้เล่นโทรศัพท์ รวมทั้งไม่ออกไปทำงาน ทั้ง ๆ ที่ตัวของนายบอยเป็นคนมีความรู้ เรียนจบโรงเรียนอินเตอร์ พูดภาษาอังกฤษได้ 



การกระทำดังกล่าวของผู้เป็นแม่ ทำให้นายบอยเกิดความเครียดสะสมถึงขั้นป่วย จึงเกรงว่าการกดดันนายบอยมากๆ จะทำให้มีการทำร้ายร่างกายหรือฆ่า น.ส.วรณัณ ผู้เสียชีวิตได้ แต่กลับกลายเป็นว่า เรื่องที่พูดคุยกลับไม่ได้รับการแก้ไขจากผู้เสียชีวิต อีกทั้งที่ผ่านมาในอดีตครอบครัวของนายบอย มีฐานะเมื่อตอนที่พ่อนของนายบอยยังมีชีวิตอยู่ โดยประกอบอาชีพตัดสูทให้ขาวต่างชาติที่ย่านโรงแรมดังใจกลางเมือง แต่ต่อมาเมื่อพ่อของนายบอยเสียชีวิต น.ส.วรณัณ บริหารธุรกิจครอบครัวล้มเหลว 

ตัวนายบอย พยายามจะเข้ามาดูแลกิจการต่อ แต่ผู้เสียชีวิตก็ยังคงกีดกันจนนายบอย เกิดอาการเครียดมาโดยตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ลูกฆ่าแม่ ซึ่งตนยอมรับว่า "มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่แม่ของนายบอยเองรักลูกผิดวิธี" 



ป้าภา กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวนายบอยเอง ตนเชื่อว่า เป็นคนลงมือฆ่าแม่ด้วยความกดดัน โดยก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งคาดว่านายบอย เพิ่งจะก่อเหตุได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เนื่องจากเมื่อ 5-6 วันก่อน ตนเพิ่งเจอนายบอยและผู้เสียชีวิต โดยนายบอย ก็ยังทักทายตนทุกครั้งโดยการยกมือไหว้ ไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าว แต่ส่วนที่เจอนายบอยล่าสุด มีสภาพดูสกปรกและรีบร้อน ท่าทางมีพิรุธ แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

underline
Thailand Web Stat