
น้ำโขงบึงกาฬใกล้จุดวิกฤติ กระทบแล้ว 7 อำเภอ 21 ตำบล ชาวบ้าน-เด็กนักเรียน ต้องลุยน้ำไปกลับหมู่บ้าน
น้ำโขงบึงกาฬใกล้จุดวิกฤติ กระทบแล้ว 7 อำเภอ 21 ตำบล ขณะที่ อ.บุ่งคล้า ชาวบ้าน 80 ครัวเรือน-เด็กนักเรียน ต้องลุยน้ำไปกลับหมู่บ้าน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาริมโขง ลานพญานาค เทศบาลตำบลปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” พร้อมร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์น้ำของจังหวัดบึงกาฬ กับคณะผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยมี นายวุฒิชัย ชัยภูวนารถ นายอำเภอปากคาด , นายภิรมย์ ยนต์พันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลปากคาด พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.ปากคาด ร่วมให้ข้อมูลรายงานสถานการณ์ และการเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.ปากคาด
สำหรับสถานการณ์น้ำแม่น้ำสายหลักใน จ.บึงกาฬ ได้แก่
แม่น้ำโขง วัดที่สถานีผลิตน้ำหน่วยบริการปากคาด สาขาโพนพิสัย ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 10.90 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 50 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร
แม่น้ำโขง วัดจากสถานีบ้านพันลำ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 12.70 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.30 เมตร
แม่น้ำสงคราม วัดจากสถานีบ้านท่ากกแดง ต.ท่ากกแดง อ.เซกา ระดับน้ำอยู่ที่ 12.05 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.45 เมตร ซึ่งระดับน้ำทั้ง 2 สาย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ขณะนี้กระทบกับการดำรงชีพของประชาชนในภาพรวมทั้งจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบใน 7 อำเภอ 21 ตำบล 86 หมู่บ้าน , กระทบเกษตรกร 1,190 ราย รวมพื้นที่การเกษตร 8,610.5 ไร่ และมีชาวบ้าน บ้านเทพมีชัย หมู่ที่ 7 ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ กว่า 75 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยบางบาตรที่เพิ่มขึ้น ได้เอ่อล้นเข้าท่วมเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้การสัญจรลำบาก
ชาวบ้านและเด็กๆนักเรียน นั่งรถอีแต๊ก รถยกสูง ไปโรงเรียนและกลับบ้านช่วงเช้าและเย็น ส่วนชาวบ้านที่มีธุระก็ต้องนั่งเรือหางยาวออกมาจากหมู่บ้าน หรือรอนั่งรถยกสูง ของ ปภ.ที่นำไปไว้ให้บริการ
นายนคร รอง ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัด และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตาม และประเมินสถานการณ์ทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมกระสอบทราย บิ๊กแบ็ค สำหรับทำแนวกั้น กรณีมีความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง หรือทะลักเข้าบ้านเรือนประชาชน เตรียมพร้อมกำลังพล เครื่องมือ เครื่องจักรกล ยานพาหนะ เช่น เรือท้องแบน รถยกสูงให้พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่คล้ายกัน :
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือกรณีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ ได้แก่ เร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามแผนเผชิญเหตุให้ครอบคลุมในทุกมิติ รวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ การดูแลความปลอดภัยทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ
โดยหากมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง และเร่งรัดการดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือ ให้กับผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโดยเร็ว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน