
นักข่าวสุรินทร์รับบทหมอบายศรีจำเป็น เหตุหมอตัวจริงมาไม่ได้กระทันหัน ทำพิธีสู่ขวัญผู้อพยพหนีภัยการสู้รบ หลังทางการให้กลับเข้าหมู่บ้านได้ บรรยากาศซาบซึ้ง-น้ำตาซึม
(9 ส.ค. 68) เวลา 10.00 น. บ้านอาทึก หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านผือ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำใจ เมื่อ ดร.กิจจาณัฏฐุ์ เฉลิมเกียรติศรีนวลสกุล อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พร้อมชาวบ้าน จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ มอบถุงยังชีพและเลี้ยงอาหารให้กำลังใจผู้อพยพ หลังหน่วยงานราชการอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้
เหตุการณ์น่าจดจำเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาเริ่มพิธี แต่อาจารย์พราหมณ์ผู้ทำพิธีป่วยกะทันหัน ไม่สามารถมาร่วมงานได้ ทำให้บรรยากาศเงียบกริบ ทุกคนมองหน้ากันไม่รู้จะทำอย่างไร จนกระทั่งนักข่าวภาคสนามที่มาทำข่าวเอ่ยปากเสนอ “ถ้าต้องการ ผมพอทำพิธีแบบง่ายๆ ได้”
ชาวบ้านหันมามองพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะตอบว่า “งั้นเอานักข่าวนี่แหละเป็นพราหมณ์” จากนั้นนักข่าวก็วางกล้องและไมค์ หยิบสายสิญจน์ขึ้นมา สวมบท “พ่อพราหมณ์จำเป็น” ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญอย่างคล่องแคล่ว ได้สวดบทต่างๆ ตามขั้นตอน ทำเอาชาวบ้านถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่านักข่าวจะประกอบพิธีได้ขนาดนี้ บางคนถึงกับกระซิบกันว่า “เหมือนเคยทำมาหลายครั้ง”
บทสวดและคำอวยพรเต็มไปด้วยความจริงใจ เสียงหัวเราะปนเสียงสะอื้นดังสลับกันทั่วงาน หลังเสร็จพิธีทุกคนร่วมจุดธูป กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ทหารกล้าที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา บรรยากาศเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
นางทองม้วน อายุ 76 ปี ชาวบ้านไทยสมบูรณ์ อำเภอสังขะ เล่าเหตุการณ์วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าระเบิดตกใกล้บ้านจนบ้านข้างเคียงพังครึ่งหลัง มีผู้บาดเจ็บ 4 คน และต้องอพยพออกมาโดยไม่ได้เก็บสิ่งของใดๆ บ้านยังเปิดประตูค้างไว้ เป็นครั้งแรกที่เธอเผชิญเหตุการณ์แบบนี้
ดร.กิจจาณัฏฐุ์ กล่าวชื่นชมความสามัคคีและน้ำใจของชาวบ้าน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมช่วยเหลือ “วันนี้เราได้เห็นพลังของความเป็นไทย—ช่วยเหลือกัน รักกัน และไม่ทอดทิ้งกัน” พร้อมฝากกำลังใจถึงทหารแนวหน้า และยืนยันจะร่วมปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ต่อไป
แท็ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
