ใกล้ปิดตำนานสามล้อถีบเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียง 31 คัน
ใกล้ปิดตำนานสามล้อถีบเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียง 31 คัน
ใกล้ปิดตำนานสามล้อถีบเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียง 31 คัน อาศัยทริปนทท.ต่างชาติ เป็นรายได้หลัก
(29ม.ค.68) ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาน่องเหล็กรับจ้างขี่รถสามล้อแรงคนกว่า 20 คัน มารวมตัวกันเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางทริประยะสั้นไหว้พระตามวัดและสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ กลายเป็นภาพที่หาชมได้ยาก เนื่องจากความนิยมที่ลดน้อยลงในปัจจุบัน
จากในอดีตที่เคยเป็นหนึ่งในทางเลือกการเดินทางของพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าประจำ แต่การเดินทางและระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้บรรดาสามล้อรับจ้างเหล่านี้งานน้อยลง สุดท้ายต้องเปลี่ยนมาเป็นการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวพาชาวต่างประเทศมากินลมชมวิวในบรรยากาศแบบย้อนเวลาของเมืองไทย
หากวันใดที่ไม่มีทริปนักท่องเที่ยวก็ต้องพากันพักผ่อนอยู่บ้านแทน เพราะหาลูกค้าขาจรหรือขาประจำในทุกวันนี้แทบไม่มี แม้ทุกวันนี้สามล้อแรงคนในจังหวัดเชียงใหม่จะเรียกว่าเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ แต่อีกไม่นานก็คงหายไปกลายเป็นภาพในประวัติศาสตร์ของวิถีชีวิตคนเมืองเชียงใหม่ เพราะไร้ลูกหลานคนรุ่นใหม่มาสืบทอดแทน
ทีมข่าวสำรวจพบว่าสารถีสามล้อแรงคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 - 80 ปี อายุมากที่สุดวัยกว่า 82 ปี แต่ละคนบอกว่าทำอาชีพนี้มานานกว่า 40 ปี แล้ว ยอมรับว่าความนิยมในการนั่งสามล้อปั่นในปัจจุบันลดลงจนถึงขีดสุด แทบไม่มีใครเรียกใช้บริการ จะมีแต่ไกด์ติดต่อให้รับนักท่องเที่ยวนั่งชมเมืองทริประยะสั้นซึ่งก็ไม่ได้มีทุกวัน
หากวันไหนไม่มีงานก็จะพักผ่อนที่บ้าน ทุกวันนี้คาดว่าสามล้อปั่นรับจ้างที่เหลือจะเหลือประมาณ 31 คัน จากหลายปีก่อนหน้าที่มีอยู่ประมาณ 200 คัน ไม่รู้ว่าหากหมดรุ่นนี้แล้วจะมีใครมาสืบสานต่อเพราะแต่ละคนก็อายุมากแล้ว ยังดีที่มีองค์กรการกุศล (โรตารี) เข้ามาช่วยดูแลทั้งเรื่องการปรับปรุงซ่อมแซมรถให้มาต่อเนื่องหลายปี
โดยจากการสังเกตบรรดานักปั่นสามล้อแม้อายุมาก แต่ละคนยังมีสุขภาพแข็งแรง เพราะการทำอาชีพนี้ได้ขยับกล้ามเนื้อร่างกาย เป็นการออกกำลังกาย และไม่ค่อยเจ็บป่วยตามวัยมากนัก
ด้าน นายมนูญ รัชนี อายุ 66 ปี หนึ่งในสารถีสามล้อปั่น บอกว่า อาชีพสามล้อปั่นปัจจุบันรายได้ลุ่ม ๆดอน ๆ ถ้าเป็นหน้าไฮซีซันก็จะมีฝรั่งเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน ทุกวันนี้สามล้อปั่นในเชียงใหม่ลดลงเรื่อย ๆ
นายมนูญ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มตนเองถือว่าได้อนุรักษ์เอาไว้และทุกวันนี้รับนักท่องเที่ยวอย่างเดียว หากมีนักท่องเที่ยวก็มีรายได้หน่อย หากพาไปวัดก็ทริปละ 250 บาท หากไปเที่ยวหลายที่ก็ต้องตกลงราคากันอีกทีหนึ่ง
"ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ถือว่าภูมิใจได้ช่วยอนุรักษ์สามล้อในเมืองเชียงใหม่เอาไว้และจะทำไปจนหมดแรง" นายมนูญ กล่าว
ข่าวเวิร์คพอยท์23