"นนท์"สส.พรรคประชาชน ชี้ 3 จุดอ่อน “Entertainment Complex”
"นนท์"สส.พรรคประชาชน ชี้ 3 จุดอ่อน “Entertainment Complex”

"นนท์"สส.พรรคประชาชน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ชี้ 3 จุดอ่อน แนะรัฐบาลดำเนินการอย่างรัดกุม
(20ม.ค.68) นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการเดินหน้าสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลว่า ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลนั้น ยังขาดมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และสร้างความเชื่อมั่นว่า จะไม่ถูกกลุ่มทุนเทา มาฟอกเงินในสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมตั้งข้อสังเกต 3 ข้อต่อร่างกฎหมายดังกล่าวว่า
ประเด็นที่ 1 ยังขาดมาตรฐานป้องกันการฟอกเงิน แม้จะมีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ เลขาธิการ ป.ป.ง. จะร่วมเป็นคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรด้วย แต่ก็ไม่มีการบัญญัติให้เลขาธิการ ป.ป.ง.มีอำนาจในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน
ประเด็นที่ 2 สำหรับคณะกรรมการบริหาร จำนวน 11 คนนั้น ก็ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน และผลกระทบที่จะเกิดกับสังคม มีเพียงผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ หรือด้านที่เป็นประโยชน์กับรัฐ ซึ่งตนถือว่าเป็นความล้มเหลวการบริหารจัดการตั้งแต่ต้นทาง
ประเด็นที่ 3 การพึ่งพาผู้ประกอบการระดับโลกโดยไม่มีมาตรการกำกับที่เพียงพอ เพราะอนุญาตเพียงผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตตามกิจการที่ได้รับมาตรฐานในระดับโลกเท่านั้น แต่ไม่มีการกำกับตรวจสอบกิจการใด ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกฟอกเงิน
นายนนท์ ยังแนะนำให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรัดกุม รอบคอบ ไม่ให้สถานบันเทิงครบวงจร ที่มีคาสิโนด้วย ถูกใช้ในการฟอกเงินของมิจฉาชีพได้ และควรมีกลไกให้ ป.ป.ง.สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายการฟอกเงินได้ เพราะการพนันถูกเป็นความผิดมูลฐานที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จึงย้ำให้รัฐบาล สร้างกลไกป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินในกาสิโน
นายนนท์ กล่าวว่า พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นการพนันที่ถูกกฎหมาย จึงดูย้อนแย้งกันเองสำหรับบทบาท ป.ป.ง. และพ.ร.บ.กาสิโน ตนจึงขอเสนอให้รัฐบาลควรสร้างกลไกป้องกันปราบปรามการฟอกเงินในกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นในกาสิโนมีการรายงานต่อคณะกรรมการที่ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมคัดกรองข้อมูลส่งต่อให้ป.ป.ง. ซึ่งจะทำให้ป้องกันเงินผิดกฎหมายสู่ระบบกาสิโน และเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกิจ แต่ทั้งนี้ ป.ป.ง.ก็มีเรื่องที่กำกับดูแลมากมายไม่ทั่วถึง ขนาดธนาคาร 32 แห่งยังดูแลไม่ไหวปล่อยให้มีบัญชีม้าเต็มไปหมดแล้วจะไว้ใจให้ดูแลกาสิโนได้อย่างไร
นายนนท์ ยังเสนอให้รัฐบาลกำหนดมาตรการ KYC หรือ Know Your Customer: กระบวนการที่สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลใช้ ตรวจสอบตัวตนของลูกค้า และมาตรการ CDD Customer due diligence: การตรวจสอบข้อเท็จจริงของลูกค้าหรือการตรวจสอบตัวตนของลูกค้า มาใช้เป็นทางการปฏิบัติเพื่อป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งจะมีการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการฟอกเงิน และก่อการร้าย และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพิสูจน์ติดตามลูกค้า และประเมินความเสี่ยงได้ ซึ่งก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ไม่ทำให้สถานบันเทิงครบวงจรถูกปล่อยร้างเหมือนในต่างประเทศ จนกลายเป็นที่ตั้งของขบวนการคอลเซ็นเตอร์
ข่าวเวิร์คพอยท์23
ข่าวที่เกี่ยวข้อง