“โรม” งง ใครคือนายกฯตัวจริง ไหนบอกกลับไทยเพื่อเลี้ยงหลาน

วันนี้ (4 ก.ค.67) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. ที่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลของการถอนฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยมิชอบและเปิดเผยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ขอร้องให้ถอนฟ้อง ว่า ตนเข้าใจมาตลอดว่า นายทักษิณ กลับไทยเพื่อเลี้ยงหลาน แต่ดูเหมือนบทบาททางการเมือง จะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับบทบาทของ นายทักษิณ ในรัฐบาลนี้ เหมือนเป็นผู้ปัดเป่าสิ่งต่างๆ ให้พ้นไปจาก นายเศรษฐา ใช่หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า จะทำให้เกิดข้อครหาว่า นายทักษิณ มีอิทธิพลต่อรัฐบาลนี้ใช่หรือไม่ เกิดการตั้งคำถามถึงสภาวะความเป็นผู้นำของ นายเศรษฐา มีอยู่อย่างไร ตกลงแล้วประเทศนี้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง อีกทั้งสภาพการเมืองแบบนี้ ไม่ดีและทำลายความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ควรเชื่อ นายเศรษฐา หรือไปถามซ้ำกับ นายทักษิณ ไม่ใช่การเมืองที่หลายคนอยากเห็น และควรเปลี่ยนผ่านได้แล้ว การที่นายกฯ มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็ต้องพิสูจน์ และกรณีนี้เป็นคดีอาญา ไม่สามารถถอนฟ้องได้

"ไม่อยากให้ นายทักษิณ เข้ามามีบทบาทเช่นนี้ เพราะในภาพรวมจะทำลายภาพความเป็นผู้นำของ นายเศรษฐา"

ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายทักษิณ จะไปวิ่งกับทาง ป.ป.ช. เองนั้น ตนมองว่าแบบนี้ยิ่งเสียหาย ไม่มีใครทำได้อยู่แล้วในทางกฎหมาย เพราะองค์กรอิสระจะไม่อิสระ เท่ากับว่าหลักกฎหมายความถูกต้องก็จะไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องอันตราย นายทักษิณ ก็ไม่ได้มีสถานะอะไรในรัฐบาลนี้ การพยายามมามีบทบาทไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล จะมีคนไปร้ององค์กรต่างๆ เป็นปัญหาไม่จบ 

นายรังสิมันต์ ย้ำอีกว่า พรรคก้าวไกล ไม่สนับสนุนการทำนิติสงคราม เชื่อว่าพรรคการเมืองจะขึ้นมามีอำนาจก็ด้วยการสนับสนุนของประชาชน หากเป็นเรื่องกฎหมายก็ต้องพิสูจน์กันด้วยพยานหลักฐาน เรื่องที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปร้องตนเข้าใจว่าเป็นคดีอาญา ไม่สามารถถอนฟ้องได้ ก็ต้องพิสูจน์ว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติหรือไม่ และเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ให้กับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งต้องพิสูจน์กันต่อไป