“มาดามเดียร์” ซัดแรง ก้าวข้ามความขัดแย้งหรือข้ามหัว ปชช.

“มาดามเดียร์” ซัดแรง ก้าวข้ามความขัดแย้งหรือข้ามหัว ปชช.

51629 ส.ค. 67 11:49   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“มาดามเดียร์” ซัดกรรมการฯ ประชาธิปัตย์ ก้าวข้ามความขัดแย้งหรือข้ามหัวประชาชนกันแน่? ชี้ไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เป็นการซ้ำเติม-ทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคและต่อการเมืองไทย

(29 ส.ค. 67) น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแคนดิเดตชิงตำปหน่งหัวหน้าพรรค ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว “เดียร์ วทันยา บุนนาค” แสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค ที่นำพรรคประชาธิปัตย์ ตอบรับคำเชิญร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยเธอระบุว่า


“ก้าวข้ามความขัดแย้ง หรือก้าวข้ามหัวประชาชน?


การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างว่าคนรุ่นนี้ไม่รับมรดกความขัดแย้งของรุ่นก่อนหน้า ฟังดูเป็นการตัดตอนอย่างง่าย เพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรมในการขึ้นสู่อำนาจ?


แท้จริงแล้ว ภาพความขัดแย้งที่ผู้บริหารชุดนี้เหมารวม มันคือการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเต็มกำลังมาทุกยุคทุกสมัย ไม่อ่อนข้อหรือล้มมวยเพื่อเห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์ต่างตอบแทน


“ผู้แทนประชาชน” คือ ตัวแทนประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชน


“ผู้แทนประชาชนที่ดี” จึงต้อง “กล้า…ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้า…ต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมเมื่อขัดแย้งกับประโยชน์ส่วนรวม” ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ไม่ใช่การเข้ามาทำหน้าที่เพื่อสู้รบ หรือรักกับใครเพราะการแบ่งผลประโยชน์ส่วนตนนั้นลงตัว


แม้ในตลอดกว่าช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ชนะการเลือกตั้ง การเมืองเผชิญความวุ่นวาย จนพรรคได้รับบทเรียนเหลือ ส.ส. จำนวน 25 คน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยสูญเสียเกียรติ และความภาคภูมิใจเพราะสมาชิกพรรคต่างตระหนักรู้ดีว่า การตัดสินใจของสมาชิกไม่ได้เกิดขึ้นจากการทำประโยชน์เพียงเพื่อคนไม่กี่คน หรือใครคนใดคนหนึ่ง


ดังนั้น…การกอบกู้วิกฤตพรรคที่วันนี้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง คือการทำหน้าที่เพื่อประชาชนในฐานะฝ่ายค้าน ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างสุดกำลังความสามารถ ไม่ใช่การสบช่องหาโอกาส เพื่อเข้าสู้อำนาจโดยก้าวข้ามความรู้สึกประชาชนที่ยังคงให้ความไว้วางใจในพรรคประชาธิปัตย์


การตัดสินใจของผู้บริหารพรรคชุดนี้ไม่เพียงซ้ำเติม ทำลายวิกฤตศรัทธาของพรรคที่ชาวประชาธิปัตย์ในอดีตเพียรสร้างมาอย่างสิ้นเชิง หากแต่คือการทำลายวิกฤตศรัทธาของการเมืองไทย ที่สุดท้ายนักการเมืองไม่อาจเป็นความหวัง การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม ให้นักการเมืองเข้ามาร่วมกันแสวงหาประโยชน์ของตนเอง”


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง