ปธ.กกต.รับ DSI ช่วยให้เร็วขึ้น - คำร้อง สว.เสร็จแล้วเกินครึ่ง

ปธ.กกต.รับ DSI ช่วยให้เร็วขึ้น - คำร้อง สว.เสร็จแล้วเกินครึ่ง

64910 พ.ค. 68 17:02   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ประธาน กกต.ยอมรับ DSI เข้ามาช่วยทำให้งานเร็วขึ้น เพราะ DSI มีพยานหลักฐานในมือมากกว่า ตอนนี้คำร้องเรียนกรณี สว. ทั้งหมด 577 เรื่อง ทำเสร็จแล้ว 300 กว่าเรื่อง

(10 พ.ค. 68) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่มีหมายเชิญสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาชี้แจงเรื่องการฮั้วเลือก สว. ว่า เป็นเอกสารแจ้งข้อกล่าวหา เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นพิเศษ คือคณะที่ 26 ที่มี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาช่วยด้วย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วพบว่าสามารถนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาได้ จึงได้มีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ด้วยการทำหนังสือนัดหมาย กำหนดเวลาให้บุคคล 53 คนตามข่าว ให้มารับทราบข้อกล่าวหาและให้โอกาสชี้แจง แสดงหลักฐานของตัวเอง


ประธาน กกต. กล่าวอีกว่า การแจ้งให้มาชี้แจง สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์ คณะกรรมการฯ ไปยื่นด้วยตัวเอง และติดหมายเรียกไว้หน้าบ้าน กรณีไม่พบเจ้าตัว ทั้งนี้สว.ที่ได้รับหนังสือเรียก ต้องเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 26 ที่สำนักงาน กกต.


เมื่อถามถึง กรอบระยะเวลาการพิจารณาหลังจาก สว. เข้ามาชี้แจงแล้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า กรอบเวลาของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนฯ มีเวลา 90 วัน แต่สามารถขยายได้ หากเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายบุคคล และเมื่อผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาชี้แจงแล้ว ก็จะมีการประมวลพิจารณาวินิจฉัย และเสนอความเห็นไปยังเลขาธิการ กกต. ซึ่งกรอบเวลาของเลขาฯ มีเวลาพิจารณาอีก 60 วัน จากนั้นจึงจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต. โดยผ่านการพิจารณาของอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณากลั่นกรอง เพื่อเสนอความเห็นให้ กกต. ตัดสิน และถ้าหากที่ประชุม กกต. เห็นว่าไม่จำเป็นต้องสอบเพิ่มเติม เนื่องจากข้อมูลหลักฐานไม่เพียงพอก็ยุติเรื่อง แต่หากพบว่ามีความผิดจริง ก็ส่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง และเข้าสู่กระบวนการของศาลต่อไป ซึ่งถ้าศาลรับคำร้องไว้ ก็จะส่งผลให้สมาชิกวุฒิสภาต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ 


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรอบระยะเวลาการพิจารณาคำร้องที่ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปี นายอิทธิพร กล่าวว่า กรอบ 1 ปี เป็นการกำหนดเอาไว้เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่กระทบกับการสืบสวนไต่สวนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งสามารถยืดหยุ่นและขยายเวลาได้ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานก็ไม่อยากล่าช้า เพราะถ้าช้าต้องมีเหตุผล 


เมื่อถามว่าหากมีสว.ต้องออกจากหน้าที่ จะต้องมีการเลือก สว. ใหม่ขึ้นมาทดแทนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจำนวน ต้องรอดูความชัดเจนอีกที 


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเรียกสว. มาชี้แจงเพิ่มจากที่เรียกไปรอบแรก 53 คนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เมื่อคำร้องเข้าสู่กระบวนการ ก็ต้องให้แต่ละส่วน มีอำนาจหน้าที่อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นจะมีอีกหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานที่คณะกรรมการฯ ชุดที่ 26 เป็นผู้พิจารณา การจะให้ข่าวออกไปตอนนี้คงไม่เหมาะสม 


เมื่อถามย้ำว่าในหมายเรียกระบุชัดเจนว่า สว. มีความผิดชัดเจนเรื่องฮั้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ใช่มีความผิด แต่มีพฤติการณ์ที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืน จะวินิจฉัยว่าผิดเลยไม่ได้ เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลที่มี ทำให้เราเชื่อ แต่การตัดสินว่าใครผิดหรือไม่ผิด เป็นหน้าที่ศาล 


เมื่อถามว่า การวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการฯ ก่อนเสนอ กกต. สามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ได้เปลี่ยน แต่สามารถแสดงความเห็นได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือมีจุดไหนที่ต้องการข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและใช้ดุลพินิจได้อย่างชัดเจนที่สุด ไม่เช่นนั้นจะเกิดความลักลั่น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่ชัด


เมื่อถามว่าทำไมดีเอสไอเข้ามาแล้วดำเนินการได้เร็วกว่าที่กกต.ทำเอง ประธาน กกต. กล่าวว่า มีบางเรื่องที่พยานหลักฐานไม่มากเท่ากับที่ดีเอสไอมี จึงต้องการให้ดีเอสไอมาช่วยดู และเมื่อเชิญเข้ามา บวกกับพยานหลักฐานที่เขามีอยู่แล้ว ก็ทำให้ไม่ช้า ซึ่งคำร้องของ สว. มีทั้งหมดประมาณ 577 คำร้อง ทำเสร็จไปแล้ว 300 กว่าเรื่อง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง