"โรม"ตั้งข้อสงสัยทำไมตัดไฟเมียนมาแค่ 5 จุด ทั้งที่มี 6 จุด

"โรม"ตั้งข้อสงสัยทำไมตัดไฟเมียนมาแค่ 5 จุด ทั้งที่มี 6 จุด

32106 ก.พ. 68 20:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"โรม"ตั้งข้อสงสัยทำไมตัดไฟเมียนมาแค่ 5 จุด ทั้งที่มี 6 จุด เรียกประชุมหารือเล็งขยายผลต้องตัดไฟในสปป.ลาว และกัมพูชาหรือไม่

(6ก.พ.68) ที่ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยเชิญกระทรวงมหาดไทย , เลขาธิการสภาความมั่นคง หรือ สมช. , เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.และเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน , ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ รวมถึงผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. มาชี้แจงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน การใช้บัญชีม้า ในขบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงประเทศแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งกรณีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดนไทย - เมียนมา เพื่อมาหารือภายหลัง สมช.มีมติตัดไฟ ระงับการส่งน้ำมัน และสัญญาณสื่อสาร ไปยัง 3 เมือง 5 จุดในชายแดนไทย-เมียนมา


นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ฐานะประธานกมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า การตัดไฟ 5 จุดในชายแดนเมียนมานั้นมองว่าแท้จริงมีการจ่ายไฟ 6 จุด และถูกตัดไป 5 จุด ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ยังไม่ถูกตัด จึงจะได้สอบถามกับ กฟภ. สมช. และหน่วยงานว่า เหตุใดจึงไม่ตัดไฟจุดดังกล่าว และจะมีการขยายผลไปถึงชายแดน สปป.ลาว และกัมพูชาหรือไม่ เพราะไฟฟ้าที่มีการขาย มีทั้งสิ้น 18 จุด 


นายรังสิมันต์ มองว่า การจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาและกัมพูชาอาจต่างกัน และต้องการวิธีการไม่ให้กระทบประชาชน แต่เรื่องคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่คนไทยได้รับปัญหามาก จึงจะต้องทำให้รวดเร็ว เจ็บแต่จบ


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า การตัดไฟ น้ำมัน และสัญญาณนั้น อาจจะไม่พอ เพราะอย่างสัญญาณอินเทอร์เน็ตนั้น ก็มีสัญญาณดาวเทียม ซึ่งสามารถระบุพิกัดอาคารที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำการ โดยไม่ให้การตัดสัญญาณไปกระทบกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ และยังจะต้องมีอีกหลายระดับที่จะต้องจัดการ รวมถึงท่าข้ามด้วย เพราะการสั่งเปิด-ปิดท่าข้าม เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย


"หากยังคงต้องการคงอยู่ของท่าข้ามฯ ก็จะต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มข้น แต่หากไม่สามารถควบคุมได้ ก็ควรลดปริมาณท่าข้ามฯ ลงเพราะปัจจุบันท่าข้ามหลายแห่ง อยู่ตรงข้ามตึกที่ทำการคอลเซ็นเตอร์ จึงชัดเจนว่า อาจมีการเอื้ออำนวยให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้" นายรังสิมันต์ กล่าว


นายรังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่มีการประเมินว่ากรณีที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา อาจเปลี่ยนไปซื้อไฟ จาก สปป.ลาว แทนไทยนั้น มองว่า ถือเป็นความแปลกประหลาด เพราะประเทศไทยก็มีการขายไฟฟ้าให้กับ สปป.ลาวด้วย ดังนั้น จึงจะต้องไปตรวจสอบความเชื่อมโยงในการซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง สปป.ลาว กับท่าขี้เหล็กของเมียนมา 


"มองว่าการเซ็นสัญญาระหว่าง กฟภ.กับบริษัทเอกชนในเมียนมา ที่มีข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ และเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นเห็นว่าเจ้าของบริษัทถูกคว่ำบาตรจากหลายประเทศ และพื้นที่ที่มีการขายไฟฟ้า ก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ในกลุ่มเอกชนนี้ และเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งนโยบายต้องการให้กระทบกับประชาชนทั่วไปน้อยที่สุด และอาจไม่มีนโยบายใดที่จะไม่มีผลกระทบ 100%" นายรังสิมันต์ ระบุ


นายรังสิมันต์ ระบุต่อไปว่า ดังนั้นจึงจะต้องชั่งน้ำหนัก และจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ได้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสียหาย รวมถึงร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เพราะเมื่อไทยตัดทรัพยากรไปแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็อาจจะไปพึ่งพาทรัพยากรประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ได้  


"อย่างไรก็ดีการประชุมกรรมาธิการฯ สัปดาห์หน้า จะมีการติดตามการเพิ่มมาตรการท่าข้ามชายแดนของเอกชนต่าง ๆ ในพื้นที่ เพราะพบความพยายามส่งสิ่งของต่าง ๆ ผ่านท่าข้าม ซึ่งเอื้อต่อการกระทำผิดกฎหมาย เพราะท่าข้าม เป็นช่องโหว่สำคัญทำให้ชายแดนเปราะบาง ไม่เหมือนจุดข้ามแดนถาวร" นายรังสิมันต์ ระบุ


ข่าวเวิร์คพอยท์23


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง