‘สมชัย’ ซัดแรง ศรีธนญชัย ปมตีความ ‘ทักษิณ’ เป็นผู้ช่วยหาเสียง
‘สมชัย’ ซัดแรง ศรีธนญชัย ปมตีความ ‘ทักษิณ’ เป็นผู้ช่วยหาเสียง
‘สมชัย’ ซัดแรง “ศรีธนญชัย กลับชาติมาเกิด” ปมตีความ ‘ทักษิณ’ เป็นผู้ช่วยหาเสียได้ไหม - อธิบายชัดๆ บอกถ้าไม่บังคับท้องถิ่นใครท้องถิ่นมัน “ยุ่งตายห่ะ”!
(30 ม.ค. 68) จากกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้ง อบจ.68 ว่ามีนักการเมืองและอดีตนักการเมืองระดับชาติลงไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ใช่คนในท้องที่ดังกล่าว นั้นขัดกับระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 หรือไม่
ก่อนที่วานนี้(29 ม.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโต้ตอบว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทยในหลายจังหวัด นั้นมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน โดยอ้างถึงระเบียบฯ ว่าไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตที่ไปหาเสียง พร้อมทั้งบอกว่า กกต.เองก็ไม่ว่าอะไร
ล่าสุดเช้านี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเพจ ปั่นไปไหน - สมชัย ศรีสุทธิยากร ถึงกรณีดังกล่าวว่า
“ศรีธนญชัย กลับชาติมาเกิด เจอกับผู้รักษากฎ ที่อ่านกฎหมายไม่รู้เรื่อง
ประเด็นการตีความระเบียบว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า คุณทักษิณ สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้หรือไม่ เปิดระเบียบ กกต. ปี 2563 ข้อ 4 เขียนคำนิยาม “ผู้ช่วยหาเสียง”หมายถึง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และ นิยาม “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง“ หมายถึง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
แม้จะไม่มีการเขียนย้ำว่า ท้องถิ่นนั้น ๆ แต่ไม่สามารถตีความแบบกว้างสุดขอบฟ้า ว่า จะเป็นผู้มีสิทธิที่ท้องถิ่นไหนก็ได้ เพราะหากพิจารณาคำนิยามของตำแหน่งอื่น ๆ เช่น ผู้สมัคร หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น ก็ล้วนแต่ไม่มีเขียนว่า “ท้องถิ่นนั้น” แต่อย่างใด
แต่การบังคับใช้ กม. ต้องเป็นท้องถิ่นใครท้องถิ่นมัน ไม่งั้น ”ยุ่งตายห่ะ“
ผู้สมัคร หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น ต้องบังคับใช้ กม.เฉพาะท้องถิ่นใคร ท้องถิ่นมัน มิเช่นนั้น วุ่นวายแน่ มีหรือ ผู้สมัครหาเสียงข้ามพื้นที่ มีหรือ ผู้ว่าไปจุ้นจังหวัดอื่น มีหรือตำรวจจังหวัดหนึ่งไปจับซื้อเสียงอีกจังหวัด พิจารณาแค่นี้ ก็รู้แล้วว่า ระเบียบใช้บังคับท้องถิ่นใครท้องถิ่นมัน
ผู้ช่วยหาเสียง จึงต้องเป็นคนในท้องถิ่น ที่จะช่วยแจกใบปลิว ถือป้าย พานำเข้าชุมชนที่เขาคุ้นเคย ไม่ใช่ใครจากส่วนกลาง ที่มาปราศรัยขายฝัน บ้า ๆ บอ ๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับท้องถิ่น
ระเบียบ กกต. กกต.เป็นคนเขียนเอง เรื่องนี้ไม่ต้องถามกฤษฎีกาให้ตีความ ถ้าเขียนเองแล้วตอบไม่ได้ว่าหมายถึงอะไร ก็น่าสงสารแล้ว
ส่วนพรรคที่มีมือ กม. ใหญ่ หากตีความตะแบงแบบนี้ ก็สงสารประเทศไทย ยังโชคดีที่ไม่บอกว่า กม. เขาไม่ได้เขียนให้ชัดว่า มีสิทธิเลือกตั้งชาติไหน ชาติไทยหรือชาติอื่น ชาตินี้หรือชาติหน้า ดังนั้น แม้ชาตินี้ไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น ชาติหน้าเป็น ก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้”