"เพื่อไทย"โชว์ปลดล็อก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ได้แล้ว

(19มี.ค.68) ที่ อาคารรัฐสภา พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมาธิการฯและ นายวันนิวัติ สมบูรณ์ สส.ขอนแก่น ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยสาระสำคัญคือการปลดล็อกการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ผลิตสามารถประชาสัมพันธ์สินค้า พูดถึงผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ตราสัญลักษณ์ ส่วนประกอบ วิธีการผลิต แหล่งที่มาหรือลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนดต่อไป ซึ่งจะทำให้ส่งเสริมสุราชุมชนของไทยเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศได้

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวถึงประเด็นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ว่า ปกติแล้วไม่ได้มีการห้ามจำหน่ายในระดับ พ.ร.บ.แต่เป็นแค่การห้ามจำหน่ายในระดับกฎกระทรวง ดังนั้น ถ้าจะเขียนไว้ใน พ.ร.บ.จึงไม่มีความจำเป็น แต่ขออธิบายเพิ่มเติมว่า การแก้ไขกฎหมายนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายกับคณะกรรมการนโยบายฯ ได้หารือแนวทางในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์ นั้นหมายความว่า หากเราไม่ได้มีการระบุชัดเจนไว้ใน พ.ร.บ.นี้ ว่าห้ามขายออนไลน์ ก็เท่ากับว่าเราจะเปิดกว้างให้คณะกรรมการควบคุมฯ สามารถออกหลักเกณฑ์ในการขายออนไลน์ และยังเปิดช่องให้ขายออนไลน์ได้มากกว่า

ส่วนในเรื่องการโฆษณา เป็นประเด็นที่มีปัญหามาโดยตลอด คือ พ.ร.บ.ปี 51 ปัญหาหลักมี 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกที่มีข้อความว่า ใครแสดงตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยหวังประโยชน์ทางตรงทางอ้อม ปัญหาคือ การแสดงตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ มุ่งหวังการค้าทางตรงทางอ้อม ทำให้เกิดปัญหาคือ พี่น้องประชาชนที่สังสรรค์และถ่ายภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วถูกดำเนินคดี อันนี้เขาไม่ได้มีเจตนาเพื่อการค้า แต่เพราะ พ.ร.บ. เขียนว่า ห้ามแสดงตราสัญลักษณ์ ก็กลายเป็นปัญหา เป็นคดีความมากมาย ซึ่งร่างของ ครม.ที่นำเสนอก็ได้ตัดข้อความนี้แล้ว ดังนั้น การแสดงตราสัญลักษณ์โดยที่ไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ควรถูกดำเนินคดี

ส่วนอีกประเด็นที่ยังไม่ได้ถูกแก้ คือเรื่องผู้ประกอบการรายย่อย ขาดช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้าตัวเอง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมสุราชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย แต่กฎหมายเดิมห้ามโฆษณาทำให้เขาโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ หากปล่อยผ่านจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ของรายย่อยและรายใหญ่ เท่ากับว่ารายใหญ่ใช้ช่องทางอื่นหลีกเลี่ยงประชาสัมพันธ์ได้แต่รายย่อยทำได้ลำบาก จึงได้ขอสงวนความเห็นไว้

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ สส.ขอนแก่น กล่าวว่า การจำกัดการโฆษณาแบบเหมารวม ส่งผลผู้ประกอบการรายย่อยอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งกฎหมายปัจจุบันมีข้อห้ามการโฆษณาเข้มงวด ทำให้ผู้ผลิตรายย่อยประชาสัมพันธ์คุณภาพสินค้าหรือภูมิปัญญากระบวนการผลิตได้ เช่นที่ขอนแก่น ผู้ผลิตสุราชุมชนได้รับเชิญเข้าร่วมงานเผยแพร่องค์ความรู้การผลิตสุราชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่พวกเขากลับถูกตำหนิต่อว่าจากหน่วยงานรัฐว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสะท้อนความไม่ชัดเจนของกฎหมายปัจจุบัน

นอกจากนี้ การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จะช่วยให้มีการบริโภคที่เหมาะสม เพราะผู้ผลิตจะสามารถบอกข้อมูลสินค้าได้อย่างชัดเจนครบถ้วนลดความเข้าใจผิด และทำให้เกิดการบริโภคที่มีความรับผิดชอบมากกว่าการปิดกั้นข้อมูลทั้งหมด

สุดท้าย คือเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพกับส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เช่นในต่างประเทศที่รายย่อยจะประชาสัมพันธ์ข้อมูลภูมิปัญญาและกระบวนการผลิตได้ ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของการคุ้มครองสุขภาพและสนับสนุนผู้ผลิตขนาดเล็กไปพร้อมกัน

ข่าวเวิร์คพอยท์23