"พิชัย"รมว.คลัง เผยสหรัฐฯกำหนดให้ไทยเจรจากับใครบ้างปมภาษี
"พิชัย"รมว.คลัง เผยสหรัฐฯกำหนดให้ไทยเจรจากับใครบ้างปมภาษี

"พิชัย"รมว.คลัง เผยสหรัฐฯกำหนดให้ไทยเจรจากับใครบ้างปมภาษี ย้ำยังยึด 5 ข้อเจรจาเดิม
(10มิ.ย.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหารือเรื่องการขึ้นกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ว่าเรื่องที่คุยก็เหมือนเดิม ทางสหรัฐกำหนดแล้วว่าจะให้ไทยได้พูดคุยกับใครบ้าง ตอนนี้ก็กำลังเตรียมตัว ว่าใครจะไปนั่งคุยในรายละเอียด และใครจะต้องตัดสินใจ ซึ่งก็ต้องช่วยกันดู ตอนนี้กำลังจัดทำกันอยู่
"เนื้อหารายละเอียดในการเจรจา ยังยึดรายละเอียด 5-6 ข้อเดิมหรือไม่ เขาส่งมา ส่วนใหญ่ก็อยู่ในข้อเสนอที่เราส่งไป" นายพิชัย กล่าว
เมื่อถามว่าได้กำหนดวันในการเดินทางแล้วหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปกำหนดวันเดินทาง เพราะทางสหรัฐอยากทำขั้นตอนอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อถามว่าวันนี้กฎหมายที่ผ่านเป็นกฎหมายเกี่ยวกับอะไร นายพิชัยกล่าวว่า “เป็นกรอบในการที่จะไปเจรจา”
ทั้งนี้นายพิชัยปฏิเสธตอบคำถามถึงกรณีที่มีคนยื่นร้อง ป.ป.ช. เรื่องมาตรา 144 ว่า ป.ป.ช.ได้เชิญไปให้ถ้อยคำแล้วหรือยัง ก่อนจะเดินขึ้นตึกไปทันที
โดยข้อเสนอของไทยในการหารือประกอบไปด้วย 5 เรื่อง ดังนี้
1.ทางไทยจะให้ความร่วมมือ เพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทยกับสหรัฐ โดยเน้นที่อุตสาหกรรมการแปรรูปและอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ หรืออุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะพิจารณาลดอุปสรรคทางการค้าทั้งส่วนที่เป็นภาษีและไม่ใช่ภาษี
2.ทางไทยยินดีจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ในหมวดสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร เครื่องบิน และส่วนประกอบ อุปกรณ์บริการ โดยปลัดกระทรวงพลังงานได้เดินทางไปพร้อมกับทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทผลิตไฟฟ้า เพื่อหารือกับผู้ว่าการรัฐอะแลสกา และบริษัทด้านพลังงานของสหรัฐ ในการหาโอกาสและเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างกันต่อไป
3.ไทยจะเปิดตลาดสาขาเกษตร อาทิ ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
4.เรื่องสินค้าผ่านทาง ไทยจะมีการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าอย่างเคร่งครัด ซึ่งเรื่องนี้ไทยได้ดำเนินการไประดับหนึ่งแล้ว และเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรของสหรัฐ
5.ส่งเสริมการลงทุนในสหรัฐมากขึ้น ภาครัฐสนับสนุนการขยายการลงทุนของเอกชนไทยในสหรัฐ ภายใน 4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
