"สันติ พร้อมพัฒน์-ลูกชาย" แถลงบริษัทและตระกูล ไม่เกี่ยวข้อง การซื้อขายตึก Skyy9 กับประกันสังคม ยัน ไม่รู้จัก ไม่เคยคุย กับใครหรือผู้มีอำนาจในประกันสังคม
"สันติ พร้อมพัฒน์-ลูกชาย" แถลงบริษัทและตระกูล ไม่เกี่ยวข้อง การซื้อขายตึก Skyy9 กับประกันสังคม ยัน ไม่รู้จัก ไม่เคยคุย กับใครหรือผู้มีอำนาจในประกันสังคม

"สันติ พร้อมพัฒน์-ลูกชาย" แถลงบริษัทและตระกูล ไม่เกี่ยวข้อง การซื้อขายตึก Skyy9 กับประกันสังคม ยัน ไม่รู้จัก ไม่เคยคุย กับใครหรือผู้มีอำนาจในประกันสังคม แจง ไทม์ไลน์ ซื้อตึกมาแล้วขายต่อไปปี 2562 ยันไม่ฟ้อง
(20 มี.ค.68) จากกรณีนางสาวรักชนก ศรีนอก สส. พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ได้ออกมาเปิดเผยการซื้ออาคาร Skyy 9 มูลค่าถึง 7,000 ล้านบาทนั้น ซึ่งเป็นมูลค่าสูงเกินราคาประเมิน โดยระบุว่า สำนักงานประกันสังคมได้มีการซื้อตึกดังกล่าวนี้มีความเชื่อมโยงไปยังลูกนักการเมืองชื่อย่อ ส. วันนี้
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชายของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ได้แถลงชี้แจงว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาคารดังกล่าวกับสำนักงานประกันสังคม โดยได้ไล่เรียงไทม์ไลน์การซื้อขายอาคารดังกล่าวดังนี้
นายพัฒนา ระบุว่า เคยเป็นเจ้าของอาคารนี้เดิมชื่อว่า ICE ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร โดยตนเป็นผู้บริหารของ บริษัทวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน จำกัด ได้เข้าซื้ออาคาร ICE ในปี 2560 จาก บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ ซึ่งขณะนั้นเป็นอาคารร้าง สภาพทรุดโทรม ไม่สามารถใช้ประโยชน์และใช้งานได้ แต่อยู่ในทำเลที่ดีจึงได้เข้าทำการลงทุน ซื้ออาคารเก่าในลักษณะเป็นห้องชุดจากหลายเจ้าของ จนได้กรรมสิทธิ์การครอบครองทั้งอาคาร
หลังจากนั้นได้มีบริษัท เอจีอาอี 101 ซึ่งเป็นบริษัทกองทุน PE fund หรือ กองทุนที่ระดมทุนจากนายทุนต่างประเทศ ซึ่งตนได้รับการแนะนำจากผู้ที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ความสนใจในการเข้าซื้ออาคาร จึงได้ทำข้อตกลงซื้อขายอาคาร ICE ในสภาพเดิม และทำการโอนกรรมสิทธิ์ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ส่วนราคาซื้อขายอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ต่อมาในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 บริษัท เอจีอาอี 101 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพียงผู้เดียว ซึ่งหลังจากได้ดำเนินการซื้อขายแล้ว มีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายพัฒนา กล่าวว่า หลังจากโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ตนเองไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือติดตามหลังจากการขาย ถือว่าเป็นการจบสิ้นระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ต่อมาตนทราบว่าบริษัท เอจีอาอี 101 ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ หลังบริษัทของตนได้ขายอาคารนี้ เพื่อไปนำไปลงทุนทางด้านธุรกิจต่อ
นายพัฒนา กล่าวย้ำว่า "ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและบริษัทวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเอจีอาอี 101 แต่อย่างใด ไม่เคยทราบเรื่องราว ว่าอาคารนี้ได้มีการเปลี่ยนมือเป็นของใครแล้วบ้าง มีการซื้อขายในราคาเท่าไหร่ ซึ่งตนได้ทราบเรื่องหลังมีข่าวว่าสำนักงานประกันสังคม ได้มีการซื้ออาคารนี้
ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่รู้จัก กับผู้ใดในประกันสังคม และไม่รู้จักกรรมการหรือผู้มีอำนาจรายใด ในสำนักงานประกันสังคม หรือในกระทรวงแรงงาน ตนจึงขอชี้แจงว่า หลังบริษัทของตนได้ขายอาคารนี้ไป ให้กับบริษัท เอจีอาอี 101 ตนก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอีกแต่อย่างใด ตนจึงขอปฏิเสธที่มีกระแสข่าวว่าตนได้ขายอาคารดังกล่าวนี้ให้กับประกันสังคม นั้นไม่เป็นความจริง"
นายพัฒนา ระบุว่า สาเหตุที่ซื้ออาคารดังกล่าวนี้ในปี 2560 เพราะอาคารดังกล่าวนี้ เป็นอาคาร 37 ชั้นมีเนื้อที่ 100,000 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ในทำเลที่ดี น่าจะเหมาะกับการเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุน เพียงแต่อาคารค่อนข้างเก่า และภายในมีสภาพทรุดโทรม โครงสร้างภายใน เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน สายไฟและระบบทุกอย่าง ไม่สามารถใช้งานได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามองอย่างไรเมื่ออาคารดังกล่าวถูกปรับปรุงและนำมาขายต่อ ในราคา 7,000 ล้านบาท เป็นมูลค่าที่สูงเกินจริงหรือไม่ นายพัฒนาตอบว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่อาคารถูกปรับปรุงออกมาได้สวย และยังได้รับรางวัล Gold Standard ส่วนเรื่องราคานั้นไม่ขอแสดงความคิดเห็น
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการซื้อขายตึกดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งอาจจะมีความเชื่อมโยงไปยังบิดาหรือไม่ นายพัฒนาตอบว่า ไม่ทราบและยืนยันว่าตระกูลพร้อมพัฒน์ และบริษัทวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องหรือถือหุ้นใดๆ กับบริษัท เอจีอาอี 101 และ ไม่รู้จักกับบุคคลใดหรือเกี่ยวข้องกัน
ขณะที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ได้เดินทางมากับลูกชายและรับฟังการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถาม ถึงความเชื่อมโยงการซื้อขายอาคารดังกล่าวกับความสัมพันธ์ของคนในพรรคพลังประชารัฐนายสันติ ตอบว่า การซื้อขายอาคาร Skyy9 หรือชื่อเดิมคือ ICE เพราะลูกชายจบการศึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์และภาคการเงินมาโดยตรง ซึ่งลูกชายได้เคยมาหารือถึงการรีโนเวตอาคารดังกล่าว แต่ต่อมาในวงการอสังหาริมทรัพย์รับทราบว่าลูกชายเป็นเจ้าของ จึงมีการติดต่อเพื่อซื้อขายกันตามปกติ
ส่วนบริษัทที่มาซื้อนั้นเป็นของต่างชาติ แล้วต่อมาทราบว่ามีการรีโนเวตเท่านั้น ยืนยันว่าตระกูลพร้อมพัฒน์ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ส่วนที่มีข่าวว่า ตระกูลพร้อมพัฒน์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องถือว่าเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายสันติ ตอบว่า ตนเข้าใจเพราะว่าเป็นนักการเมืองที่จะต้องถูกตรวจสอบ เพื่อหาความชัดเจน จึงทำให้ลูกชายต้องมาแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งตนขอยืนยันที่ลูกชายแถลงไปนั้นเป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลพร้อมพัฒน์หรือพร้อมทวีสิน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการซื้อขายอาคาร Skyy9
ทั้งนี้นายสันติ พร้อมพัฒน์ ระบุว่า จะไม่มีการยื่นฟ้องกับคนที่กล่าวพาดพิง เพราะตนเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ และที่ผ่านมาตนยืนอยู่บนความถูกต้องทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ฟ้อง