"อนุทิน" สับสวิตช์ตัดไฟฟ้า 5 จุดชายแดนเมียนมา สกัดแก๊งคอลเซนเตอร์

(5 ก.พ.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เดินทางไปที่ สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยตามกำหนดการจะเริ่มตัดไฟพร้อมกัน 5 จุดในเวลา 09.00 น. บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์ 

นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า สำหรับการตัดไฟที่ กฟภ.ซึ่งเดิมทั้ง 5 จุดมีไฟฟ้ารวมกัน 20.37 เมกะวัตต์ โดยจุดแรกที่ด่านบ้านพระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ส่งไฟเมืองพญาตองซู

ต่อมาจุดที่ 2 ด่านท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.เชียงราย จุดที่ 3 บ้านเหมืองแดง สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ส่งไปที่ เมียวดี

เมื่อหากการตัดไฟแล้ว อุปกรณ์ที่หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซึ่งหมายถึงการตัดกระแสไฟฟ้าเป็น 0 จากนั้นรถของการไฟฟ้าจะเข้าปลดอุปกรณ์การจ่ายไฟที่จุดจ่ายไฟในพื้นที่ทั้ง 5 จุด 

สำหรับการตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันในวันนี้ ทั้งหมด 5 จุด ที่มีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ครอบคลุมพื้นที่ 

• จุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ เมืองพญาตองซู รัฐมอญ

• บ้านเหมืองแดง-เมืองท่าขี้เหล็ก

• สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา-เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน

• สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ส่งไปที่เมียวดี

• จุดซื้อขายไฟฟ้า ที่บ้านห้วยม่วง-อำเภอเมียว 

ระหว่างที่กำลังตัดไฟ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และ นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้มีการต่อสายรายงานสถานการณ์หกับผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตลอดเวลา อีกทั้งยังติดตามรายงานสถานการณ์ความสงบเรียบร้อยของทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งหากเกิดความไม่สงบจะรีบดำเนินการให้เรียบร้อย

ต่อมาเวลา 09.11 น. เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สอด จ.ตาก ตัดกระแสไฟฟ้า บริเวณจุดส่งไฟสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สอด เรียบร้อยแล้ว

จากนั้นเวลา 09.34 น.นายอนุทิน เดินทางมาถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และเป็นผู้ที่สับสวิตช์ตัดไฟเมียนมาจุดที่ 5 จุดซื้อขายไฟฟ้า ที่บ้านห้วยม่วง-อำเภอเมียว

ทั้งนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ตัดไฟฟ้าจุดเชื่อมต่อชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด เพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าไปสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การดำเนินงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และมีหนังสือสั่งการจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

ทั้งนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองและการทำผิดสัญญา แต่เนื่องจากพบว่ามีการนำไฟฟ้าไปใช้กับเรื่องที่กระทบกับความมั่นคงแต่ใช้ไฟฟ้าไปกับเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์

เนื่องจากมีข้อมูลระบุว่าไฟฟ้าที่ส่งไปยังเมียนมานั้นถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากตัดสินใจตัดไฟฟ้าแล้ว ไทยก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในเมียนมาอีกต่อไป การสกัดกั้นการกระทำผิดในส่วนที่เหลือ เช่น การควบคุมสัญญาณอินเทอร์เน็ต จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป หากมีผู้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ก็จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลผู้ลี้ภัยและดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่อไป ในส่วนรายได้ก่อนหน้านี้เฉลี่ย 600,000,000 บาท ต่อปีที่ กฟภ. ได้รับจากการปล่อยไฟฟ้า ยืนยันไม่มีผลกระทบกับประเทศอย่างแน่นอน เพราะปกติแล้ว กฟภ. มีรายได้ต่อปีละ หกแสนล้าน ซึ่งเทียบแล้วเท่ากับ 1% ที่หายไป