"ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นฟ้องเลขาฯ กกต.ผิด ม.157 ปมมีคำสั่งไม่ยุบพรรคภูมิใจไทย

"ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นฟ้องเลขาฯ กกต.ผิด ม.157 ปมมีคำสั่งไม่ยุบพรรคภูมิใจไทย

25322 ม.ค. 68 16:21   |     Tum1

"ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นฟ้องเลขาฯ กกต.ผิด ม.157 ปมมีคำสั่งไม่ยุบพรรคภูมิใจไทย ศาลนัดฟังคำสั่งความสมบูรณ์ของคำฟ้อง 3 ก.พ.68

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ม.ค.68 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" เดินทางไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นฟ้อง นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในความผิด ฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีมีคำสั่งไม่ยุบพรรคภูมิใจไทย

โดย ทนายอั๋น กล่าวว่า นายแสวง เลขาฯ กกต.และนายฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งเป็นผู้ลงนามในคำสั่งเด็ดขาด "ไม่ยุบพรรคภูมิใจไทย" ซึ่งกรณีที่มีคนร้องเรียนว่าพรรคภูมิใจไทยต้องถูกยุบนั้น เนื่องมาจากประธานสภาฯ ได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ว่าสมาชิกภาพของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลงหรือไม่อย่างไรตามรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กรณีของนายศักดิ์สยาม ให้นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ถือหุ้นแทนมีลักษณะเป็นนอมินี ขณะนั้นนายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่งเป็น รมว.คมนาคม ทำให้ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า เป็นของนายศักดิ์สยาม ได้รับเหมาก่อสร้างงานทำถนน โดยเฉพาะในจังหวัดบุรีรัมย์ 53 โครงการ เป็นเงิน 2,000 ล้านบาท นำสู่ความเป็นสมาชิกภาพของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลง โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่1/2567 ลงวันที่ 17 ม.ค.67 


ต่อมา ตนจึงไปยื่นร้อง กกต.ขอให้มีคำสั่งยุบพรรคภูมิใจไทยด้วยมูลเหตุดังกล่าว กระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 2567 นายแสวง ได้มีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ส่งเรื่องไปยัง กกต.ทั้ง 7 คนทำการวินิจฉัย โดยมีเหตุผลว่า ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า เงินที่ได้มาจากการบริจาคให้พรรคภูมิใจไทย เป็นเงินที่พรรคการเมืองรู้หรือควรจะรู้ว่าเงินที่ได้มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่



ตนขอเทียบเคียงกรณีที่ กกต.สั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เพื่อนำสู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 สั่งยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ สืบเนื่อง จากกรณีที่นายธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง เอาเงินไปให้พรรคกู้ยืมเงิน 120 ล้านบาท ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ว่า กฎหมายเขียนในรัฐธรรมนูญมาตรา 72 ห้ามบุคคลองค์กรหรือหน่วยงานบริจาคเงินให้พรรคเกิน 10 ล้านบาท ต่อปี ต่อ 1 คน และบริจาคเพียง 1 บาทก็ไม่ได้ หากเงินนั้นเป็นเงินที่ได้มาไม่สุจริต และจะต้องทำอย่างโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตรงไปตรงมา กรณีของนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า แม้จะไม่มีกฎหมายห้ามที่จะให้พรรคการเมืองไปกู้ยืมเงิน แต่ก็ไม่มีกฎหมายรับรอง 


นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเอาคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ มาเทียบเคียงกับกรณีของพรรคภูมิใจไทย ระหว่างปี 2562 ถึงปี 2565 นายศักดิ์สยาม ขายหุ้นออก ก่อนไปดำรงตำแหน่งเป็น รมว.คมนาคม โดยในช่วงเวลาดังกล่าวการทำนิติกรรม ธุรกรรมต่างๆ ทำในนามของนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ นั่นหมายความว่า เงินที่ได้รับบริจาคจาก หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ให้แก่พรรคภูมิใจไทย โดยนายศักดิ์สยาม นั่งเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย มันสุจริตหรือไม่ เทียบกันแล้วมันไม่โปร่งใส หากต้องการบริจาคต้องบริจาคในนามตัวเอง แต่ที่ผ่านมาตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายศุภวัฒน์ ทำในนามนายศักดิ์สยาม 

ดังนั้น ตนเชื่อว่า นายแสวง คนระดับเลขาธิการ กกต.จะไม่รู้เชียวหรือ เพียงแต่ไม่หยิบเอาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ มาเป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัย เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ให้แก่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อย่างไร จึงนำคดีนี้มายื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อมีคำพิพากษาต่อไป

โดยศาลรับเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท18/2568 นัดฟังคำสั่งความสมบูรณ์ของคำฟ้อง วันที่ 3 ก.พ.68 เวลา 09.00 น.นี้ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน  







TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง