“ภูมิธรรม” รับยังไม่มีอำนาจสั่งแก้น้ำท่วม ต้องรอแถลงนโยบายฯ พรุ่งนี้

(11 ก.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความห่วงใย ได้ส่งกำลังใจ สงสารประชาชน อยากให้ทุกคนปลอดภัย และเข้าสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากช่วงนี้รัฐบาลยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ นอกเสียจากจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสียก่อน ต้องรอจนกว่าจะวันที่ 12 ก.ย. เมื่อนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายเสร็จ จะสามารถมีอำนาจสั่งการได้เลย ไม่ต้องรอจนแถลงนโยบายจบ อย่างไรก็ตาม นายกฯได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมในวันที่ 12 ก.ย.เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่า มีความเสียหายซึ่งมาจากดินโคลนถล่มที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่วนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีน้ำเชี่ยวกราก มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนนับพันราย ตอนนี้มีปัญหาทั้งน้ำท่วมสูง ปัญหาเรื่องการกินอยู่ของประชาชน แต่ตนเชื่อว่า หน่วยงานต่างๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือบ้างแล้ว ในส่วนของกระทรวงกลาโหม มณฑลทหารบก (มทบ.) ที่ 37 มทบ.34 และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ไปช่วยแล้ว โดยผู้ใหญ่ในกระทรวงกลาโหมได้รายงานว่า ไม่ต้องกังวลสถานการณ์ในขณะนี้ ตอนนี้ทหารทุกหน่วยอยู่ในพื้นที่แล้ว หน่วยราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด มีการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็น แม้รัฐบาลจะไม่ได้สั่งการอะไรก็ตาม ซึ่งตนมีความสบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้รัฐบาลสามารถทำได้แค่มีความห่วงใย แต่หลังจากนายกฯแถลงนโยบายเสร็จเราจะปฏิบัติการทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายกฯมีกำหนดการลงพื้นที่เชียงรายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 12 ก.ย.จะมีการประชุมก่อน ตอนนี้เราทราบแต่เพียงสื่อ ซึ่งไม่แน่ใจว่า ข้อมูลตรงหรืออันไหนเป็นข้อเท็จจริง หลังจากวันที่ 12 ก.ย.น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยหลังนายกฯแถลงนโยบายเสร็จ ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาแรกที่เราจะทำทันที

เมื่อถามว่า เท่าที่มีการประเมิน คาดว่าปัญหาน้ำท่วมจะมีการคลี่คลายเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอรอหารือในวันที่ 12 ก.ย.ก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถประเมินได้ว่า จะคลี่คลายเร็วหรือช้า ปัญหาขณะนี้คือ ปัญหาของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่เราต้องเข้าไปช่วยก่อน