"อนุทิน"ตั้งเป้าเลือกตั้งรอบหน้า กวาด สส. 251 เสียง

"อนุทิน"ตั้งเป้าเลือกตั้งรอบหน้า กวาด สส. 251 เสียง

32031 ธ.ค. 67 16:32   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"อนุทิน"ตั้งเป้าเลือกตั้งรอบหน้า กวาด สส. 251 เสียง ชี้ตัวเลข สส.ของพรรคฯได้มากขึ้นทุกรอบ

(31ธ.ค.67) เวลา 09.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงจุดแข็งและเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ว่า เราเอาผลงานเข้าแลก ผ่านสโลแกน “พูดแล้วทำ” สิ่งที่ไม่ได้พูดก็ทำ เราไม่ได้ดีแต่พูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าอย่างน้อยนี่เป็นเครดิตและความเชื่อถือที่ประชาชนจับต้องได้ และให้คะแนนเราในเรื่องของการปฏิบัติ แม้พูดไม่ค่อยเก่ง พูดไม่ค่อยเพราะ เอาใจคนไม่ค่อยเป็น แต่เวลาทำงานเราทำอย่างเต็มที่มีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้


สำหรับอุดมการณ์ของพรรคภูมิใจไทยจะถูกโยงต้องการให้เป็นรูปแบบระหว่างพรรคแนวประชาธิปไตยหรืออนุรักษ์นิยม นายอนุทิน กล่าวว่า เราเป็น “พรรคปฏิบัติ” ทำงานตามหน้าที่ วันนี้เราเป็นรัฐบาลก็ทำหน้าที่เป็นรัฐบาล หากวันไหนเป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออยู่กับประชาชนตลอด ในพื้นที่เป็นความรับผิดชอบของ สส.ภูมิใจไทย ไม่ว่าจะสอบได้หรือสอบตกก็อยู่กับประชาชน 


“ไม่ใช่ว่าอยู่กับประชาชนแค่ตอนเป็น สส. ในทางกลับกันหากไม่ได้รับเลือกเป็น สส. ก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น 2 - 3 เท่า ซึ่งจากสถิติผู้แทนของพรรคภูมิใจไทย เมื่อพลาดการเลือกตั้งครั้งเก่าการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะกลับมาทำงานให้ทุกคนเต็มที่แบบ100%” นายอนุทิน กล่าว 


เมื่อถามว่ากลุ่มเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทยจะยังคงเป็นภาคอีสานและภาคใต้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่แล้ว ตอนนี้เมื่อดูสัดส่วนในภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ รวมถึงภาคอีสานไม่ทิ้งห่างกันเท่าไร เราไม่ใช่พรรคท้องถิ่นแล้ว แต่เป็นพรรคที่สามารถมีผู้แทนจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งการทำงานก็ง่าย 


เมื่อถามว่าในพื้นที่ภาคใต้พรรคการเมืองเจ้าของพื้นที่เดิมดูจะอ่อนแอลงพรรคภูมิใจไทยจะขยายพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็เป็นตัวของเราเอง ไม่ใช่ว่าคนอื่นอ่อนแอแล้วเราจะไปโฟกัสตรงนั้น เพราะเราทำงานแบบยั่งยืนและมั่นคงมาโดยตลอด นี่คือวิธีการทำงานของตนและพรรคภูมิใจไทย ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นยอมรับว่า ไม่ใช่พื้นที่แข็งแรงของพรรคภูมิใจไทย แต่ก็ไม่เป็นไร 


เมื่อถามถึงเป้าหมายตัวเลข สส.ของพรรคภูมิใจไทย ในสมัยหน้า นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คงอยากจะได้ สส. 251 เสียงอยู่แล้ว แต่จะทำได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เวลาที่ลงสมัครแล้วพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งผู้สมัครเป็นพิธี แต่จะได้รับเลือกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนและพื้นที่ด้วย 


นายอนุทิน ย้ำว่า เท่าที่ตนทำพรรคภูมิใจไทยหลัก ๆ มา 2 ครั้งในการเลือกตั้ง เห็นว่าพรรคก็เติบโตในระดับเกือบเท่าตัวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นระบบการเลือกตั้งใบเดียวหรือสองใบ หากมองด้วยจิตใจที่เป็นธรรมแล้ว การเลือกตั้งในปี 2566 พรรคภูมิใจไทย โตขึ้นมากและโตทุกเขต ไม่ใช่โตด้วยคะแนนถัวเฉลี่ยแบบปาร์ตี้ลิสต์เหมือนการเลือกตั้งในปี 2562 ซึ่งน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีของพรรคภูมิใจไทยที่แต่ละเขตเรามีความแข็งแรงจาก 39 ที่นั่ง ในปี 2562 มาเป็น 68 ที่นั่งในปี 2566 จึงมองว่าหากเติบโตในระดับเท่านี้ได้ การเลือกตั้งในปี 2570 เราก็น่าจะเติบโตกว่านี้ ซึ่งเราก็ต้องคิดเป็นบวกไว้ก่อน


ส่วนในอนาคตคาดหวังว่าจะเป็นพรรคแกนนำหลัก ในการเป็นนายกรัฐมนตรีบ้างหรือไม่ หรือ จะเป็นพรรคตัวแปร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งการที่จะเป็นนักการเมือง เมื่อถึงการเลือกตั้งทุกพรรคก็ต้องมีการเสนอผู้ที่เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ก็เสนอหัวหน้าพรรคมาโดยตลอด และในส่วนของความเป็นพรรคการเมือง เมื่อถึงการเลือกตั้งเมื่อใด ก็ต้องนึกเสมอว่าหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยจะได้อะไรจากพรรคภูมิใจไทย แต่ระหว่างกลางแบบนี้ไม่ต้องมีใครมากังวล เพราะมันจบเป็นครั้งถึงเวลาเลือกตั้ง เราก็มาสู้กัน ต่างคนก็ต่างทำแคมเปญ 


เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ทำให้มีกระบวนการอื่น ๆ พยายามมาขัดขวาง นายอนุทิน กล่าวว่า ยิ่งขวางก็จะยิ่งโต และเดี๋ยวนี้การสื่อสารการกระจายข่าว หรือฝ่ายที่จ้องจะทำลาย ไม่ได้ทำได้อยู่ฝ่ายเดียว เดี๋ยวนี้ทุกคนเป็นเจ้าของสถานีทีวีกันหมด สามารถชี้แจงได้เอง เพียงแต่จะทำหรือไม่ทำก็เท่านั้น 


“ทุกคนรู้เท่าทันกันหมด หากเรามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่ได้เป็นไปตามนั้นจริง ก็ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะมันพิสูจน์ได้ด้วยหลักฐาน แต่ถ้าใครทำผิดก็เตรียมตัวตาย หากทำอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วคนออกมาตีแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำอย่างไรก็ไม่รอด เพราะฉะนั้นพรรคภูมิใจไทย ยึดอยู่อย่างเดียวว่าหากใครไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องกลัว แต่ใครทำผิดก็ตัวใครตัวมัน ไม่ต้องมาขอให้ช่วย แม้แต่คนในพรรคเองทุกคนก็ต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม” นายอนุทิน กล่าว


เมื่อถามว่ามีโอกาสเห็นพรรคภูมิใจไทยลุยสนามเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เราไม่ได้ลุยในนามพรรค แต่เรามีเครือข่ายอยู่แล้ว เพราะอย่างที่ตนเคยได้อธิบายให้กับสื่อมวลชนไปว่าบางท่านก็เป็นญาติกัน น้องช่วยพี่ ญาติช่วยญาติ แต่หากมายึดโยงกับพรรคและคนที่มาช่วยอยู่อีกพรรคการเมืองหนึ่ง 


“ถึงแม้อยากจะช่วยเขาก็ช่วยไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะทำให้พรรคคู่แข่งนั้นโตขึ้นมา สุดท้ายมันไม่ได้เป็นประโยชน์กับใคร และไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชนในท้องถิ่นนั้น” นายอนุทิน กล่าว 


นายอนุทิน บอกด้วยว่า พรรคภูมิใจไทยเราคำนึงถึงประชาชนเป็นหลักอยู่แล้ว เราก็ถอนตัวออกมาในการที่จะส่งในนามพรรค ซึ่งหากเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทย ท่านใดจะลงสมัครในท้องถิ่น เราก็มีความยินดีที่จะช่วยสนับสนุน ให้กำลังใจให้เขาได้รับชัยชนะ 


“ยอมรับว่าวันนี้ทำอะไรมากไม่ได้เพราะมีหน้าที่ในการรับผิดชอบดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ออกหนังสือเวียนให้ข้าราชการมหาดไทยทั่วประเทศวางตัวเป็นกลาง” นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในเมื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะไปเชียร์ใครออกนอกหน้าก็ไม่เหมาะสม กฎหมายไม่ได้ห้าม แต่มันไม่ความเหมาะสม


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง